ปูด"สมเด็จช่วง"ซื้อเบนซ์เอง
“ไพบูลย์” เปิดหลักฐานใหม่มัด “สมเด็จช่วง” เซ็นเช็ค 1 ล้าน ซื้อรถเบนซ์โบราณหรู
“ไพบูลย์” เปิดหลักฐานใหม่มัด “สมเด็จช่วง” เซ็นเช็ค 1 ล้าน ซื้อรถเบนซ์โบราณหรู
นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ นพ.มโน เลาหวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ จุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ยื่นคำร้องกล่าวหาการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ต่อนายสมชาย สุรชาตรี ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยแสดงหลักฐานเป็นเช็คจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ที่โอนให้อู่วิชาญเพื่อชำระซื้อรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น 300 ดี ทะเบียน ขม 99 กทม.
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในวันที่ 13 ธ.ค. 2553 สมเด็จช่วงได้กระทำผิดล่วงละเมิดพระธรรมวินัยด้วยการสั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ให้กับอู่วิชาญเพื่อเป็นการชำระค่าซื้อรถเบนซ์คลาสสิก และยังเป็นผู้ลงนามด้วยตนเอง เพื่อยื่นขอจดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบก โดยปรากฏหลักฐานในสมุดคู่มือจดทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2554 ซึ่งเป็นวันเกิดของสมเด็จช่วง จึงขอให้มหาเถรสมาคมพิจารณาสั่งรับคำร้องกล่าวหาและตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันเดียวกัน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การขอเลื่อนให้ปากคำของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีความเชื่อมโยงกับการยักยอกเงินเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้เช่นเดียวกับคดีอื่นๆ โดยตามหลักการแล้วสามารถขอเลื่อนให้ปากคำได้ 2 ครั้ง แต่หากถึงครั้งที่ 3 เจ้าหน้าที่จะต้องขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ
“เรื่องนี้ต้องให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้พิจารณา และยืนยันว่าดีเอสไอทำทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว


