ดอนเมืองประกาศยกเลิกตรวจเข้มกระเป๋า-สัมภาระแล้ว

สนามบินดอนเมืองยกเลิกมาตรการตรวจกระเป๋า-สัมภาระทุกชินหน้าจุดเช็กอินแล้ว หลังผู้โดยสารรอคิวแน่น

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. เวลาประมาณ 15.30 น. ท่าอากาศยานดอนเมืองประกาศยกเลิกมาตรการตรวจค้นและเอกซเรย์กระเป๋า/สัมภาระของผู้โดยสารทุกชิ้นที่นำเข้าไปในพื้นที่เช็กอินแล้ว หลังจากที่ผู้โดยสารจำนวนมากต้องรอคิวแน่นและทำให้การเช็กอินล่าช้า โดยกลับไปใช้วิธีเดิมคือตรวจเฉพาะกระเป๋าและสัมภาระที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องเท่านั้น ส่งผลให้บรรยากาศการเช็กอินกลับมาคล่องตัวอีกครั้ง

ทั้งนี้ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ออกประกาศว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารให้เหมาะสม โดยอยู่บนพื้นฐานของมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการบินของรัฐ และมาตรฐานสากล ท่าอากาศยานดอนเมืองจะปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่คือ

1.ท่าอากาศยานดอนเมืองจะทำการเอ็กซเรย์เฉพาะกระเป๋าที่ทำการโหลดขึ้นเครื่อง ส่วนกระเป๋าที่ติดตัวขึ้นเครื่องจะทำการเอ็กซเรย์ที่จุดตรวจค้นผู้โดยสาร

2.เพิ่มเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเข้าควบคุมการปฎิบัติงานในการตรวจค้นสัมภาระของผู้โดยสาร

3.ท่าอากาศยานดอนเมืองขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่ให้เปิดกระเป๋าที่ผ่านการเอ็กซเรย์แล้ว และหากสติ๊กเกอร์ที่ติดกระเป๋ามีชำรุดจะต้องทำการเอ็กซเรย์กระเป๋าใหม่

4.ท่าอากาศยานดอนเมืองขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เช็กอินของสายการบิน เข้มงวดในการตรวจสอบกระเป๋า และสติ๊กเกอร์ก่อนเช็กอิน และโหลดขึ้นเครื่องทุกครั้ง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) กล่าวว่า ตามที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ได้ทำการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยการตรวจค้นและเอ็กซ์เรย์กระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารทุกชิ้นที่นำเข้าไปในพื้นที่เช็คอิน เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2558 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ซึ่งเป็นการดำเนินการตามพื้นฐานของมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการบินของรัฐ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน

อย่างไรก็ตามปัจจุบันปริมาณผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศ และไม่นิยมโหลดกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ส่งผลให้ผู้โดยสารและสายการบินได้รับผลกระทบจากการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าว 

ดังนั้น ท่าอากศยานดอนเมือง จึงได้ดำเนินการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยจะทำการเอ็กซเรย์กระเป๋าสัมภาระเฉพาะที่จะโหลดลงใต้ท้องเครื่อง (Check – in Baggage) ส่วนกระเป๋าที่ถือติดตัวขึ้นเครื่องจะทำการเอ็กซเรย์ ณ จุดตรวจค้นผู้โดยสาร โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของสายการบินเข้มงวดในการตรวจกระเป๋าสัมภาระและสติกเกอร์ก่อนเช็กอินและโหลดขึ้นเครื่องทุกครั้ง รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเข้าควบคุมการปฏิบัติงานในขั้นตอนการตรวจสติกเกอร์ด้วยเช่นกัน เพื่อความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ทั้งนี้ ห้ามมิให้ผู้โดยสารเปิดกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านขั้นตอนการเอ็กซเรย์และติดสติกเกอร์แล้ว หากมีการตรวจพบว่าสติกเกอร์ที่ติดกระเป๋าสัมภาระมีการชำรุดจะต้องทำการเอ็กซเรย์กระเป๋าใหม่

นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่าการปรับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 2558 ทั้งนี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยของ ทดม.ยังคงเป็นไปตามมาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาชาติอีกด้วย

ก่อนหน้านี้สายการบินต่างๆได้ประกาศให้ผู้โดยสารภายในประเทศเดินทางมาถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมงครึ่ง และผู้โดยสารระหว่างประเทศควรเผื่อเวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง