ร้อง‘สกนธ์’พ้นไตรภาคี

ไตรภาคีภาคประชาชน เรียกร้องนายกฯ ปลด “พล.อ.สกนธ์” พ้นประธานกรรมการ 3 ฝ่ายโรงไฟฟ้ากระบี่

คณะกรรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ (ไตรภาคี) สัดส่วนภาคประชาชน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ฝ่ายของคณะกรรมการไตรภาคี ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทบทวนความเหมาะสมในการทำหน้าที่ของ พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการไตรภาคี

นอกจากนี้ คณะกรรมการไตรภาคีภาคประชาชนได้ประกาศจุดยืนว่าจะไม่ยอมรับข้อสรุปและการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการโรงไฟ้ากระบี่จากรัฐบาล โดยที่ยังไม่มีข้อสรุปอันเป็นมติร่วมกันของคณะกรรมการไตรภาคี

สำหรับสาระสำคัญของแถลงการณ์ ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีและอนุกรรมการชุดต่างๆ ได้ข้อสรุปว่า จ.กระบี่ มีศักยภาพพลังงานหมุนเวียน 1,699 เมกะวัตต์ แต่ปัจจุบันยังมีอุปสรรคเรื่องผู้ประกอบการไม่สามารถขายไฟเข้าระบบได้ คณะอนุกรรมการชุดที่ 2 จึงมีข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็นการเร่งด่วน และ พล.อ.ประยุทธ์ มีบัญชาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้คณะกรรมการไตรภาคีไปศึกษาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย รวมถึงต้นทุนและความคุ้มค่าเพื่อประกอบการตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการไตรภาคี ครั้งที่ 6/2559 เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่กำลังประชุมตามข้อบัญชาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. พล.อ.สกนธ์ กลับกล่าวต่อที่ประชุมว่า จะไม่มีการพิจารณาวาระเพื่อพิจารณานี้แล้วเนื่องจากไม่มีเวลา และขอให้คณะกรรมการไตรภาคีแต่ละคนกรอกแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แล้วประธานจะนำไปสรุปแก่นายกรัฐมนตรีเอง พร้อมกันนี้ยังได้สั่งให้ยุติการดำเนินงานของคณะกรรมการไตรภาคีลง

ทั้งนี้ คณะกรรมการไตรภาคีภาคประชาชนเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของ พล.อ.สกนธ์ ขัดกับเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี ในการแสวงหาคำตอบร่วมกันด้วยกระบวนการทางวิชาการและยังแสดงถึงความไม่มีธรรมาภิบาลในการประชุมและการแสวงหาคำตอบร่วมกัน จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทบทวนความเหมาะสมในการทำหน้าที่ของ พล.อ.สกนธ์

ภาพประกอบข่าว