เครือข่ายประชาชนยื่นรมว.พลังงานยกเลิกแผนพีดีพี2015
ตัวแทนประชาชน 13 เครือข่าย ยื่นหนังสือ รมว.พลังงาน จี้ยกเลิกแผนพีดีพี 2015 เหตุสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น ส่งผลให้ชาวบ้านแบกรับค่าใช้จ่ายค่าไฟ 6.7 แสนล้าน ใน 20 ปี
ตัวแทนประชาชน 13 เครือข่าย ยื่นหนังสือ รมว.พลังงาน จี้ยกเลิกแผนพีดีพี 2015 เหตุสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น ส่งผลให้ชาวบ้านแบกรับค่าใช้จ่ายค่าไฟ 6.7 แสนล้าน ใน 20 ปี
ตัวแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของไทย 13 เครือข่าย จากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ จ.กระบี่ อ.เทพา จ.สงขลา ลุ่มน้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน จ.อุบลราชธานี เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.พลังงาน เรียกร้องให้ยกเลิกแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558-2579 (แผนพีดีพี 2015) และชะลอโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ขนาด 800 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าเทพา จ.สงขลา ขนาด 2,200 เมกะวัตต์ เนื่องจากไม่มีความจำเป็น
นายอิสคาเรส หะยีเด ตัวแทนเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาถ่านหิน กล่าวว่า แผนพีดีพี 2015 จะนำไปสู่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าจำนวนมากถึง 57,459 เมกะวัตต์ ในระยะ 20 ปี ข้างหน้า โดยอ้างถึงความจำเป็นต่อความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบเนื้อหาของแผนฯ ฉบับนี้ พบความไม่ชอบมาพากลหลายประการ
นอกจากนี้ แผนพีดีพี 2015 จะนำไปสู่การลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เกินความจำเป็น เป็นการลงทุนที่ไม่เกิดประโยชน์ กลายเป็นภาระทางการเงินของผู้บริโภคในระยะยาวผ่านค่าไฟ คิดเป็นเงินกว่า 6.7 แสนล้านบาท เครือข่ายประชาชนฯ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานยกเลิก แผนพีดีพี 2015 เพื่อให้จัดทำแผนใหม่ ด้วยกระบวนการที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
น.ส.คำปิ่น อักษร กลุ่มคนฮักน้ำของ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า โรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้าง ใหม่จำนวนมากในแผนฯ ส่วนหนึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำและถ่านหินที่จะถูกก่อสร้างขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน และส่งไฟฟ้าเข้ามาใช้ในประเทศไทย ถือเป็นการส่งออกปัญหาสิ่งแวดล้อมและความขัดแย้งกับชุมชนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะเดียวกัน โครงการเช่นเขื่อนขนาดใหญ่บนแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวิน แม้จะสร้างในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบนิเวศข้ามพรมแดน และสร้างผลกระทบย้อนกลับมาที่ประชาชนไทย