อุทยานฯรวบคนงานพม่างัดหอยมือเสือเกาะหลีเป๊ะ

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาบุกรวบคนงานรีสอร์ทชาวพม่าใช้ชะแลงงัดหอยมือเสือบนเกาะหลีเป๊ะ

หลังจากกรณีที่สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่คนงานชาวไทยและชาวพม่านับสิบรายกำลังใช้ชะแลงงัดหอยมือเสือและปะการังจนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก บริเวณเกาะหลีเป๊ะในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค. นายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา และเจ้าหน้าที่ตำรวจของจากสถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ ร่วมกับทหารเรือภาคที่ 3 ได้จับกุมชาวพม่า 2 คนที่ใช้ชะแลงงัดหอยมือเสือและปะการังจนได้รับความเสียหายที่บริเวณพื้นที่อ่าวประมง เกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อชาวพม่า 2 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (3) ฐานนำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใดให้เป็นอันตรายต่อสัตว์และนำเครื่องมือเข้าไปในเขตพื้นที่อุทยาน นอกจากนี้ ยังได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบว่าผู้กระทำผิดทั้งสองรายนี้เข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการต่อไป ทางอุทยานจะทำป้าย 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อติดประกาศริมชายหาดเตือนนักท่องเที่ยวที่จะลงไปจับสัตว์น้ำมีโทษถูกจับและปรับตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น 

ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า เกาะหลีเป๊ะขึ้นชื่อว่ามีหอยมือเสือหนาแน่นที่สุดในทะเลอันดามัน หอยมือเสือเป็นหอยใหญ่ที่สุดในโลกอาศัยอยู่เฉพาะในแนวปะการัง จัดเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย แต่ปัจจุบันมีจำนวนลดลงเพราะถูกจับไปกินเป็นอาหาร 

ภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก www.facebook.com/ekarat.pongprueksapattana และ www.facebook.com/reefguardianthailand