posttoday

สมิทธ-ปราโมทย์รับน้ำท่วมปี54รบ.ผิดพลาด

28 กุมภาพันธ์ 2555

"สมิทธ-ปราโมทย์"จวกรัฐบาลกับ20หน่วยงานยับ จัดการน้ำท่วมปี54ผิดพลาด เหตุทำงานไม่ประสานกัน

"สมิทธ-ปราโมทย์"จวกรัฐบาลกับ20หน่วยงานยับ จัดการน้ำท่วมปี54ผิดพลาด เหตุทำงานไม่ประสานกัน

นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยตอนหนึ่งในการสัมนา โครงการท้องถิ่นร่วมใจแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ที่จ.พระนครศรีอยุธยาว่า น้ำท่วมเมื่อปี 2554 สาเหตุหลักมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดของรัฐบาล และหน่วยงานรัฐที่มีส่วนดูแลรับผิดชอบกว่า20 หน่วยงาน ที่ทำงานไม่ประสานข้อมูลกันและทำงานแบบไม่วางแผน ทำงานคนละทิศทาง อย่าไปโทษว่าน้ำท่วมเป็นอุบัติเหตุ และอย่าไปโทษว่าธรรมชาติลงโทษ

 

สมิทธ-ปราโมทย์รับน้ำท่วมปี54รบ.ผิดพลาด สมิทธ-ปราโมทย์รับน้ำท่วมปี54รบ.ผิดพลาด

ที่ผ่านมาได้เสนอแนวคิด และเสนอแนวทางและพูดในเรื่องการบริหารจัดการน้ำและการเตือนภัย และยอมรับว่าระยะหลังถูกรัฐบาล แนะนำว่าให้หยุดพูดหรือตำนิว่าพูดมากไปเช่นกัน แต่จะพูดต่อไปจนกว่าจะมีการทำงานที่สอดคล้องกันของรัฐบาลและหน่วยงาน 20หน่วยที่รับผิดชอบให้ทำงานได้ดีและสัมพันธ์กัน

"เราไปห้ามไม่ให้น้ำท่วมภาคกลางไม่ได้ เพราะพื้นทุ่มต่ำตามธรรมชาติ แต่เราสามารถลดความเสียหายของน้ำท่วมได้ หากมีการบริหารจัดการน้ำหลากที่ดี โดยจากท่วมมากท่วมนานให้ท่วมน้อยวันลง ทำอย่างไรให้ผลักดันน้ำลงทะเลให้เร็วที่สุด" นายสมิทธ กล่าว

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมี2หลัก คือหลักของการเตือนภัย เช่นกรมอุตินิยมวิทยาต้องพยากรณ์ตามหลักวิทยาศาสตร์ และหลักของการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ   และอยากจะขอให้หยุดคือเรื่องการทำนายแบบดูดวง หากใช้หลักความจริงหรือหลักวิทยาศาสตร์จะไม่ทำให้ประชาชนแตกตื่นได้

ด้านนายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบกรมชลประทาน และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยอมรับห้ามว่าน้ำท่วมภาคกลางห้ามไม่ได้ทั้งหมด เพราะเป็นทุ่งที่ลุ่มโดยเฉพาะจ.พระนครศรีอยุธยา หากบริหารจัดการน้ำที่ดีก็พอจะสามารถห้ามไม่ให้น้ำท่วมในบางจุดได้ และให้ท่วมในบางจุดได้ และการป้องกันก็ไม่ควรให้หน่วยงานใดหนึ่งทำตามลำพัง ทุกฝ่ายต้องช่วยกันวางระบบและช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

"ประเทศไทยทุกวันนี้ไม่มีระบบส่งน้ำอุทกภัยหรือน้ำหลากลงทะเล ซึ่งไม่มีทั้งระบบและไม่มีแผนที่ทำได้จริงที่ใช้กันทุกวันก็คือระยายน้ำเหนือหลากลงแม่น้ำ ลำคลองทางธรรมชาติและคลองที่ขุดในสมัย ร.5 เท่านั้นจึงทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ทุกปีทุกรัฐบาลไม่เคยคิดที่จะทำหรือวางระบบที่ชัดเจน"นายประโมทย์ กล่าว

อีกประเด็นที่มองว่าล้มเหลวคือ การทำคันกั้นน้ำ ทั้งของรัฐและเอกชน การทำแนวกั้นน้ำไม่ใช่นำดินมาโป๊ะตบให้เรียบเป็นคัน แต่การทำแนวกันน้ำต้องใช้ดินที่เหนียว และนำมาบดอัดเป็นชั้นๆให้แน่น มีฐานแผ่ที่กว้างมีความสูงที่มากกว่าระดับน้ำท่วม และยอดของแนวกั้นน้ำต้องเป็นถนน ไม่ใช่เป็นยอดแหลม และต้องความละเอียดในการทำจึงจะสามารถกันน้ำได้.

 

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ