posttoday

ศิษย์เก่าสามเสนฯส่งหลักฐานป.ป.ท.เพิ่ม สอบแป๊ะเจี๊ยะฝากเด็ก

20 กรกฎาคม 2560

ตัวแทนศิษย์เก่าสามเสนฯส่งหลักฐานป.ป.ทเพิ่มสอบแป๊ะเจี๊ยะฝากเด็กเข้าเรียนม.1-ม.4 อ้างมี 200 คน ชี้มีการรับเงินสด-ออกใบเสร็จย้อนหลัง ขอให้ขยายผลสอบทีมอดีตผู้บริหาร

ตัวแทนศิษย์เก่าสามเสนฯส่งหลักฐานป.ป.ทเพิ่มสอบแป๊ะเจี๊ยะฝากเด็กเข้าเรียนม.1-ม.4 อ้างมี 200 คน ชี้มีการรับเงินสด-ออกใบเสร็จย้อนหลัง ขอให้ขยายผลสอบทีมอดีตผู้บริหาร

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายชนะ วงศ์มุกสิก ศิษย์เก่าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ในฐานะอุปนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้ ป.ป.ท.ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อให้ตรวจสอบกรณีทุจริตเรียกรับเงินค่าตอบแทนฝากเด็กนักเรียนศึกษาต่อเป็นกรณีพิเศษของเด็กมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 (เงินแป๊ะเจี๊ยะ) จำนวน 200 คน ซึ่งมีการรับเงินสด แต่โรงเรียนออกใบเสร็จย้อนหลังให้

นายชนะ กล่าวว่า การเรียกรับเงินฝากเข้าเรียนในโรงเรียน ทางศิษย์เก่ายอมรับได้ แต่กรณีที่ผู้ปกครองจ่ายเงินแล้วโรงเรียนไม่ออกใบเสร็จให้ แต่เมื่อมีข่าวออกมาก็ทำใบเสร็จย้อนหลัง 7 ล้านบาทส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้กับโรงเรียน ซึ่งเงินดังกล่าวไม่ทราบว่าไปอยู่ตรงไหน ตนในฐานะศิษย์เก่าเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าขณะนี้ผอ.โรงเรียนถูกคำสั่งย้ายไปแล้ว แต่หากผู้บริหารและครูนายหน้าชุดนี้ยังมีบทบาทอยู่ การสอบสวนอาจไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีครูที่เป็นนายหน้าไปขอร้องผู้ปกครองอย่าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของโรงเรียน จึงอยากให้ย้ายทีมผู้บริหารและครูที่เป็นนายหน้า ซึ่งยังมีบทบาทอยู่ในโรงเรียน

"อยากเรียกร้องรมว.ศึกษาธิการตรวจสอบรายชื่อเด็กม.1 และม.4 ว่ามีผู้ปกครองของเด็กคนใดบ้างที่จ่ายเงินและไม่ได้รับใบเสร็จ โดยได้ยื่นรายชื่อให้รมว.ศึกษาธิการหมดแล้ว เท่าที่ทราบคือมีการออกใบเสร็จย้อนหลังให้ผู้ปกครองประมาณ 80 คน เชื่อว่าจะตรวจสอบได้ไม่ยาก หากสามารถเข้าไปดูคะแนนสอบของเด็กจะรู้ทันที เพราะบางคนสอบได้ 20 คะแนน แต่มีรายชื่อเข้าเรียนได้ ส่วนเด็กที่สอบได้ 50 คะแนนกลับไม่มีรายชื่อเข้าเรียน โดยเอกสารที่ยื่นให้มีรายละเอียดทั้งหมดบางรายมีชื่คนฝากด้วย"นายชนะ กล่าว

นายชนะกล่าวอีกว่า "อยากให้ผู้ปกครองมาให้ข้อมูลกับป.ป.ท. เพื่อทำให้โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยสะอาด โปร่งใส และไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบต่อเด็ก เพราะข้อมูลจะเป็นความลับ และการเปิดเผยไม่กระทบต่อการไม่ได้ศึกษาต่อ ตรงกันข้าม หากไม่ให้ความร่วมมือมาให้การ อาจมีความผิดฐานร่วมกันทุจริต

ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการป.ป.ท. กล่าวว่า ป.ป.ท.จะสอบสวนข้อเท็จจริงให้รอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ที่ผ่านมาได้ส่งคลิปวิดีโอเหตุการณ์ให้ทางเทคนิคตรวจสอบว่ามีการตัดต่อภาพหรือไม่ ส่วนข้อมูลต่างๆ ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองและครูทำให้ข้อมูลมีความคืบหน้า นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้อง ถือเป็นการตรวจสอบควบคู่กันระหว่างความผิดทางวินัยและอาญา เมื่อการตรวจสอบของสองหน่วยงานเสร็จสิ้น ผลที่ได้จะเป็นการเปรียบเทียบกัน ในส่วนป.ป.ท.หากพบความผิดทางอาญาต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวน

"สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมใจกันตรวจสอบ เพื่อลดความคลางแคลงใจให้สังคม ส่วนกรณีที่ฝ่ายผู้ร้องนำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติ่ม พร้อมเรียกร้องให้ขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการนั้น การสอบสวนของป.ป.ท.ได้ดำเนินการให้ครอบคลุมในทุกประเด็น ส่วนจะขยายผลไปถึงบุคคลใดบ้างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยรายละเอียดในสำนวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มีผู้ปกครอง ครู และบุคลากรของโรงเรียนมาเป็นพยานให้ข้อมูลแล้ว คาดว่าปลายเดือนสิงหาคมจะสรุปผลสอบข้อเท็จจริงได้ "เลขาฯป.ป.ท กล่าว