posttoday

ครม.ไฟเขียวตั้งบิ๊กศธ. 3 ตำแหน่ง

23 สิงหาคม 2559

ที่ประชุมครม.อนุมัติแต่งตั้ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ-เลขาฯคณะกรรมการการอุดมศึกษา-เลขาฯคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ที่ประชุมครม.อนุมัติแต่งตั้ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ-เลขาฯคณะกรรมการการอุดมศึกษา-เลขาฯคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่าครม. ได้อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 3 ราย ตามที่ศธ.เสนอ คือ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์  เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำรงตำแหน่ง ปลัดศธ. นายสุภัทร จำปาทอง รองปลัดศธ. ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)และ นายสุเทพ ชิตยวงษ์  รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่จะว่าง

พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ ได้มีการหารือร่วมกับ รมช.ศ.ธ. และปลัดศธ.ก่อนการตัดสินใจและเรียนนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เหตุผลที่เลือก นายชัยพฤกษ์ ให้มาเป็นปลัดศธ. เพราะต้องการให้มาช่วยทำงาน ในขณะเดียวกันก็สามารถดูแลอาชีวศึกษาได้อีกทางหนึ่ง

ขณะที่ ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เห็นว่านายสุเทพ เป็นผู้มีความอาวุโสและตั้งใจทำงานดี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาก็มีนายวณิชย์ อ่วมศรี  เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการทำงานอยู่แล้ว ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ซึ่งนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ จะต้องมีการปรับเพื่อให้มีผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. คนใหม่เป็นการชั่วคราวไปก่อน เพราะที่ผ่านมาพบว่าตำแหน่งนี้มีกติกาเข้าสู่ตำแหน่งหลวมมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำระเบียบการเข้าสู่ตำแหน่งใหม่ให้มีความเข้มข้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการหาผลประโยชน์ และเมื่อระเบียบเสร็จแล้วจึงจะแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การค้า สกสค. คนใหม่ได้

นอกจากนี้ เหตุผลที่เลือกนายสุภัทร  ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกอ. เพราะ เมื่อพิจารณาคุณสมบัติโดยรวมทุกอย่าง ต้องยอมรับว่า สกอ.เป็นพื้นที่พิเศษ จึงต้องการผู้มีความรู้ความสามารถด้านการอุดมศึกษา ที่จะต้องดำเนินงานร่วมกับมหาวิทยาลัยซึ่งมีกฎหมายของตนเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ประกอบกับมีเรื่องอุดมศึกษาหลายเรื่องที่ต้องเดินหน้าตามแนวทางใหม่ด้วย

"จะเชิญทั้ง 3 ท่าน มาหารือและทำความเข้าใจเกี่ยวกับงานที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน ต่อจากนี้ไปอีก 6 เดือนข้างหน้า ถือว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือ เพราะเมื่อให้โอกาสแล้วทุกคนต้องทำให้ดี หากทำไม่ได้ก็ต้องมาคุยกันว่าติดขัดปัญหาอย่างไร แต่ยืนยันว่าภายในปี 2560 มีงานที่จะต้องเร่งขับเคลื่อนจำนวนมาก และยังมีพันธะสัญญาในหลายๆ เรื่อง การทำงานจึงต้องเร่งให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม"พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว