posttoday

ใช้ม.44สั่งตั้งคณะอนุกก.ทุกจังหวัดกลั่นกรองโยกย้ายครู

13 กรกฎาคม 2559

หัวหน้าคสช.ใช้ "ม.44" สั่งตั้ง "คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด" ทุกจังหวัด กลั่นกรองโยกย้ายครู-ลงโทษวินัย และกำหนดวิทยฐานะ

หัวหน้าคสช.ใช้ "ม.44" สั่งตั้ง "คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด" ทุกจังหวัด กลั่นกรองโยกย้ายครู-ลงโทษวินัย และกำหนดวิทยฐานะ

ราชกิจจานุเบกษา หน้า 18 เล่ม 133 ตอนพิเศษ 155 ง 13 กรกฎาคม 2550 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 38/2559เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่10/2559และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559

ตามที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10 /2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2559  และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559เรื่อง การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2559 นั้น ปรากฏว่ายังมีข้อขัดข้องในการดำเนินการจึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งดังกล่าวเพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (7) ของข้อ2 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10 /2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“(7) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตามข้อ 8”

ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (9) ของข้อ2 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2559

“(9) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบริหารจัดการการศึกษาในภูมิภาคเพื่อให้การดำเนินการตามคำสั่งนี้มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

ข้อ 3ให้ยกเลิกความใน (7) ของข้อ 7 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21มีนาคม พุทธศักราช2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“(7) เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตามข้อ 8”

ข้อ 4ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (7/1) ของข้อ7ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2559

“(7/1) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงวงเงินงบประมาณที่ได้รับ ความคุ้มค่า และความประหยัด เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กศจ. ในส่วนที่มิใช่การปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตามข้อ 8 วรรคหนึ่ง”

ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 8ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/ 2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช  2559และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 8 ให้ กศจ. เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เรียกโดยย่อว่า “อกศจ.” ทำหน้าที่ช่วยเหลือ หรือกลั่นกรองงานเกี่ยวกับการบรรจุ การแต่งตั้ง การโยกย้าย การดำเนินการทางวินัย การกำหนดวิทยฐานะ หรือการกำหนดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดให้แก่ กศจ.

ให้ อกศจ. ตามวรรคหนึ่ง ประกอบด้วย

(1) กรรมการใน กศจ. จำนวนหนึ่งคน เป็นประธานอนุกรรมการ

(2) กรรมการใน กศจ. จำนวนสองคน เป็นอนุกรรมการ

(3) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือผู้อำนวยการสถานศึกษาในจังหวัดนั้น จำนวนสองคน เป็นอนุกรรมการ

(4) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินสามคน เป็นอนุกรรมการ

(5) ศึกษาธิการจังหวัด เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ

กรณีมีความจำเป็น กศจ. อาจเสนอแต่งตั้งข้าราชการในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดจำนวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการได้”

ข้อ 6ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ3 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559 เรื่อง การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช2559และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ3ให้มีศึกษาธิการภาค เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสำนักงานศึกษาธิการภาค ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยอาจให้มีรองศึกษาธิการภาคเพื่อช่วยเหลืองานศึกษาธิการภาคก็ได้”

ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 5 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559 เรื่อง การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2559และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 5 ให้มีศึกษาธิการจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของศึกษาธิการภาค โดยอาจให้มีรองศึกษาธิการจังหวัดเพื่อช่วยเหลืองานศึกษาธิการจังหวัดก็ได้”

ข้อ 8 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 12 กรกฎาคม พุทธศักราช 2559
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ