ศึกษาธิการเร่งแก้หนี้เสียครูห่วงติดเครดิตบูโร
กระทรวงศึกษาธิการเจรจาออมสิน หาทางช่วยครูที่โดนฟ้องแพ่งไม่ให้ติดเครดิตบูโร
กระทรวงศึกษาธิการเจรจาออมสิน หาทางช่วยครูที่โดนฟ้องแพ่งไม่ให้ติดเครดิตบูโร
นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังธนาคารออมสินเพื่อขอรายชื่อครู 1.3 หมื่นคน ที่ถูกธนาคารออมสินยื่นฟ้องดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือครูกลุ่มดังกล่าว เพราะ ศธ.ไม่อยากให้ครูต้องติดเครดิตบูโร
ทั้งนี้ เบื้องต้นแนวทางการช่วยเหลือจะแบ่งครูที่เป็นหนี้ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มครูที่กู้เงินเพื่อนำไปเป็นสวัสดิการรักษาบิดามารดา และกู้เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่บุตร 2.กลุ่มที่กู้เงินไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ตนเอง และ 3.กลุ่มที่กู้เงินเพื่อนำไปลงทุนทางธุรกิจ
สำหรับครูสองกลุ่มแรกเป็น กลุ่มที่น่าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนมากที่สุด ซึ่งอาจจะนำเงินกองทุนสวัสดิการ ช.พ.ค.มาช่วยเหลือ ส่วนกลุ่มที่สองและสามยังถือว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะครูกู้เงินเพื่อนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการกู้เงินเพื่อไปลงทุนทางธุรกิจตามเพื่อนจนทำให้ขาดทุน ดังนั้น อาจจะจัดหาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางธุรกิจมาเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้เรื่องการลงทุนให้แก่ครู หรืออาจจะทำทรัพย์สินของครูส่วนหนึ่งที่ได้จากการลงทุนมาขาย และนำเงินไปใช้หนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้ไปก่อน
"ครูที่ต้องการให้ช่วยแก้ปัญหาจะต้องแจกแจงรายละเอียดหนี้ให้ครบ แต่หากครูคนไหนไม่อยากให้เราช่วยเหลือและมีแรงในการใช้หนี้ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เราจะพยายามช่วยเหลือครูที่เป็นหนี้ทุกคนอย่างเต็มที่แม้การแก้ปัญหาหนี้ครูยังไม่มีข้อยุติ แต่ก็จะเร่งแก้ไขในส่วนที่เป็นปัญหาก่อน เพราะหนี้ครูทั้งหมดไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่คนส่วนใหญ่กลับมองตัวเลขรวมหนี้ครูที่มีจำนวนมากจนทำให้กลายเป็นปัญหา ดังนั้น การแก้ปัญหานี้จึงต้องแก้ไปตามวิกฤตของครูแต่ละคน" ปลัด ศธ. กล่าว
รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ของราชการครู เพื่อป้องกันปัญหามีหนี้ที่ตกชั้นเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าธนาคารออมสินจะมีการออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ดี ธนาคารอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) สหกรณ์ เป็นต้น มาตรการที่ส่งผลกระทบต่อทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะกับครู และผล กระทบที่จะเกิดกับธนาคารเอง


