posttoday

ธ.ก.ส. พา"เกษตรกรหัวขบวน"ดูงาน'ไม้ดอก' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

07 พฤษภาคม 2567

ธ.ก.ส. เปิดโลกพาเกษตรหัวขบวนไปดูงาน การผลิต-ขนส่ง"ไม้ดอก"ครั้งแรกในยุโรปที่ เนเธอร์แลนด์ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาถ่ายถอดทอดสู่สมาชิกในเครือข่ายเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและระบบ AI

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือธ.ก.ส จัดโครงการพากลุ่มเกษตรหัวขบวน หรือเกษตรกรรุ่นใหม่และเป็นลูกค้าหลักธ.ก.ส เดินทางดูงานเพื่อยกระดับมาตรฐานและมูลค่าสินค้าเกษตรที่ประเทศเนเธอร์แลนด์

โดยสถานที่หลักที่ไปเช่น ศูนย์นวัตกรรมพืชสวนเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก (World Horti Center) เพื่อศึกษาการปลูกพืชในห้องกระจกและการเพิ่มผลผลิตด้วยระบบ AI รวมถึงไปศึกษาการซื้อขาย ขนส่งดอกไม้ที่ Flora Holland Aalsmeer ว่าทำไมที่นี่จึงเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่และมีมูลค่ามากที่สุดในโลก

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต
 

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยถึงการเดินทางไปที่เนเธอร์แลนด์เพื่อให้ทุกคนได้เห็นโลกที่กว้างกว่าเดิม และมาต่อยอดพัฒนาผลผลิตของตัวเอง

"การที่ ธกส.พาเกษตรกรหัวขบวนมาที่เนเธอร์แลนด์ครั้งนี้ ก็ต้องการให้เกษตรกรได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น ได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์กลับไปใช้พัฒนาจุดประกายให้ภาคการเกษตรของไทยได้ขึ้นมาทันเทียบกับอุตสาหกรรมโลก เพราะเนเธอร์แลนด์เองก็เป็นแหล่งในเรื่องการปลูกดอกไม้ เราต้องการให้เห็นเลยว่ามันไม่ใช่แค่การปลูกดอกไม้แล้วขายส่ง เขามีแม้กระทั่งการปลูกเมล็ดพันธ์ แพ็กเกจ การตลาด และตัวที่เป็นผลิตภัณฑ์อีกมากมา" ผจก.ธกส.กล่าว

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

"ผมมองว่าประเทศไทยมีเกษตรหัวขบวน อยู่เยอะนะครับโดยเฉพาะของ ธกส.เอง ซึ่งเกษตรกลถุ่มนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้ภาคการเกษตรของเราโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยรวมตัวกันได้ เช่นเดียวกับ ธกส.ก็สนับสนุนเรื่องของแหล่งเงินทุน การทำการตลาด หรือการเชื่อมต่อองค์ความรู้ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อพัฒนายกระดับภาคการเกษตรให้มากขึ้น" 

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

"เรามีหน้าที่สนับสุนเรื่องเงินทุน ส่วนการเอาไปปรับและใช้ต่อเป็นสิ่งที่เกษตรกรต้องเอาไปทำแล้ว เพราะอย่างที่เห็นในครั้งนี้ (เนเธอร์แลนด์) เราเห็นเลยว่าของเขากับเราต่างกัน ของบ้านเราผลิตดอกไม้แล้วส่งไปขายไกลๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และการทำการตลาดสูงมาก และสุดท้ายเกษตรกรต้นน้ำได้เม็ดเงินไม่เกิน 30%"
 

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

"แต่หากเราทำได้ตั้งแต่การเริ่มการผลิตและขายตรงจากฟาร์มไปถึงมือลูกค้าโดยตรง ในลักษณะของพรีออร์เดอร์ มีการวางแผนเรื่องการท่องเที่ยว เพราะอย่างที่เนเธอร์แลนด์ เขาไม่ได้ปลูกไปตามปกติธรรมชาติ เขามีคนมาออกแบบจากอังกฤษ หรือหลายประเทศในยุโรปเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหารายได้เพิ่มอีกด้าน ซึ่งผมมองว่าอุตสาหกรมมการเกษตร มันไม่ได้จำกัดแค่การผลิตอีกแล้ว มันต้องเริ่มแบบครบวงจร ตั้งแต่วิจัยเมล็ดพันธุ์ให้มีหลากหลายสีมากขึ้น การส่งสินค้าตรงไปยังผู้ซื้อ หรือการเกษตรเชิงท่องเที่ยว นี่คือเรื่องที่เรากำลังส่งเสริมครับ" 

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

ด้าน "ปุ้ย" ณวิสาร์ มูลทา หนึ่งในเกษตรกรหัวขบวนจาก I love flower farm จ.เชียงใหม่ เผยว่าการมาทริปดูงานที่เนเธอร์แลนด์นั้นตรงตามไลน์ธุรกิจที่ดำเนินอยู่และได้เห็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตนั้นสามารถเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้มาก

"การมาเนเธอร์แลนด์ครั้งนี้คือการเปิดโลกเลย ได้มาเห็นการทำกลาสเฮาส์ และ กรีน เฮาส์ (ปลูกพื้นในเรือนกระจกพื้นที่จำกัดแต่เพิ่มผลผลิตได้มาก) และอีกเรื่องคือเรื่องของน้ำ ซึ่งในอนาคตเราคงต้องประหยัดน้ำมากขึ้นเพราะข้อจำกันเรื่องทรัพยากรน้ำ จากสภาวะโลกร้อนที่เราเจอทุกวันนี้ ซึ่งสามารถเอามาพัฒนาต่อได้" ณวิสาร์ มูลทา เจ้าของ  I love flower farm กล่าว

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

ทัพพ์ธนพนธ์ สภาพันธ์ เกษตรกรหัวขบวนจาก พี เจ ริช อินเตอร์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายพืชผัก ผลไม้และกล้วยหอมทองส่งห้างโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ภาคใต้ตอนล่าง กล่าวถึงการมาดูงานครั้งนี้คิดว่าการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมที่จะเอาชนะภัยธรรมชาติได้ เพราะกล้วยไม่มีฤดูกาล แต่ปัญหาของกล้วยตอนนี้ต้องเจอลมมรสุม วิธีการแก้ปัญหาตอนนี้ปลูกพืชกันลมทางธรรมชาติ ต่อไปจะพัฒนาปลูกในโรงเรือนขนาดใหญ่ได้หรือไม่ต้องมาพิจารณาอีกที

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

“เกษตรกรบ้านเขาจะมองภาครวมเป็นหลักไม่มองปัจเจกบุคคลเหมือนบ้านเรา เขาร่วมกันคิดร่วมกันทำร่วมกันแบ่งปันประโยชน์อันนี้น่าสนใจมากครับ บ้านเราถ้าใครให้ราคาสูงกว่าไม่อยู่แล้ว อยากให้มาแข่งเรื่องคุณภาพมากกว่าราคา ถ้าเราซื่อสัตย์จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนมั่นคง ครับ” นายทัพพ์ธนพนธ์กล่าว พร้อมขอบคุณธ.ก.สที่เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องเงินทุนหมุนเวียน โดยที่ผ่านมาได้กู้เงินธ.ก.ส.จำนวน 2.5 ล้านบาท ในโครงการล้านละร้อย ทำให้ได้ขยายวอนลุ่มปริมาณการรับซื้อผลผลิตกล้วยหอมทองเพิ่ม โดยปัจจุบันรับซื้อเฉลี่ยวันละ 30 ตันเพื่อส่งเซเว่นฯและโมเดิร์นเทรดในสาขาภาคใต้เกือบทั้งหมด

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต
ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต

ธ.ก.ส. พา\"เกษตรกรหัวขบวน\"ดูงาน\'ไม้ดอก\' ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อพัฒนาผลผลิต