posttoday

5 พื้นที่ "ศรีราชา" ทำเลทองภาคตะวันออก รองรับลงทุนอีอีซี

20 สิงหาคม 2560

อ.ศรีราชา หนึ่งในอำเภอของ จ.ชลบุรี เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และยังมีความต้องการของดีมานด์ที่ซ่อนอยู่ในทำเลแห่งนี้กระจายอยู่ใน 5 ทำเลใกล้เคียง

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

แม้ว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดนั้นยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำรวมไปถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังมีตัวเลขที่สูง จึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะรายใหญ่จากกรุงเทพฯ ที่เคยออกไปบุกหนัก และเคยเจ็บตัวในตลาดต่างจังหวัด จึงชะลอแผนการลงทุน

แต่ใช่ว่าตลาดอสังหาฯ ในต่างจังหวัดจะซบเซาเหมือนกันไปหมด เห็นได้จาก อ.ศรีราชา หนึ่งในอำเภอของ จ.ชลบุรี เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และยังมีความต้องการของดีมานด์ที่ซ่อนอยู่ในทำเลแห่งนี้กระจายอยู่ใน 5 ทำเลใกล้เคียง  

เริ่มจาก

1.ถนนสุขุมวิท ถนนสายหลักที่เดินทางได้สะดวก ส่วนใหญ่เป็นคอนโด มีทั้งโครงการของนักพัฒนาท้องถิ่น และผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ ราคาคอนโดอยู่ที่ 1-3 ล้านบาท เช่น โครงการใหญ่จากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

2.อ่าวอุดม แหลมฉบังห่างจากตัวอำเภอประมาณ 16 กิโลเมตร ย่านนี้คึกคักคนอยู่หนาแน่น ใกล้ทั้งนิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือแหลมฉบัง แถวนี้โครงการส่วนใหญ่เป็นคอนโดราคาล้านกว่าบาท ทำเลนี้เป็นถนน 4 เลน เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ สาย 7 ถนนบายพาสสุขุมวิท มีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หลายโครงการ ส่วนบ้านแนวราบก็มีครบส่วนมากจะเป็นทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด ราคาบ้านจะอยู่ที่ล้านปลาย

3.ย่านหนองยายบู่ ทำเลนี้เป็นชุมชนดั้งเดิมเชื่อมจากถนนสุขุมวิทและถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ศรีราชา มีโครงการใหม่ยังไม่มาก

4.รอบสวนเสือศรีราชา มีถนนเส้นหลักเป็น 6 เลน เดินทางสะดวกมากการจราจรไม่แออัด ใกล้มอเตอร์เวย์ โดยมีสถานที่สำคัญอย่างเจพาร์ค คอมมูนิตี้มอลล์ และสวนเสือศรีราชา ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และคอนโด ส่วนมากราคาจะมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป

5.บ่อวิน อีกหนึ่งทำเลที่ดินที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อยู่ห่างจากตัวเมืองศรีราชาเกือบ 30 กิโลเมตร ถนนหลักก่อนเข้าสู่พื้นที่โรงงานต่างๆ คือ สาย 331 เป็นถนน 8 เลนส่วนถนนในพื้นที่ตามนิคมฯ และที่อยู่อาศัยมี4-6 เลน โครงการที่พัฒนาพยายามเจาะกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง

นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ผลักดันชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา สู่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่กำหนดกรอบเป้าหมายการพัฒนาไว้ 5 ปี เป้าหมายคือ ศูนย์กลางแหล่งอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมไปถึงการท่องเที่ยว เกษตรกรรม และโลจิสติกส์ ภายในระยะเวลาดังกล่าวจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่จะมาลงในพื้นที่ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกทั้งสิ้น 173 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 7.1 แสนล้านบาท ทั้งโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ผังเมือง และอื่นๆ ตัวอย่างโปรเจกต์ด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ได้แก่

พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ขยายเพิ่มรันเวย์เพื่อรองรับจำนวนเครื่องบินได้มากขึ้น พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการซ่อมอากาศยานขนาดใหญ่ โครงการนี้จะส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องด้านการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องบินในพื้นที่ จ.ชลบุรี และระยอง

โครงการพัฒนาท่าเรือสัตหีบ (จุกเสม็ด) ให้เป็นท่าเรือน้ำลึกเชิงพาณิชย์ เป็นท่าเรือแห่งที่ 3 ต่อจากท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด เป็นท่าเรือขนส่งสินค้า ท่าเรือเฟอร์รี่ และท่าเรือครูซ ซึ่งจะมีการเปิดเส้นทางเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทย โครงการนี้เริ่มให้บริการเส้นทางแรกในเดือน ม.ค. 2560 คือ “พัทยา-หัวหิน” ระยะทาง 113 กิโลเมตร เวลาที่ใช้ในการเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ช่วยร่นระยะเวลากว่าการเดินทางด้วยรถยนต์

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง พัฒนาระบบราง โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) สายกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง การพัฒนารถไฟทางคู่ หนองคาย-โคราช-แหลมฉบัง-มาบตาพุด เป็นต้น

ภวรัญชน์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือโกลเด้นแลนด์ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลของบริษัทพบว่าการขยายการลงทุนในต่างจังหวัด โดยในเฉพาะใน อ.ศรีราชา ยังมีการเติบโตที่ดี หลังจากล่าสุดที่บริษัทได้เปิดขายโครงการแรกคือ โกลเด้น ทาวน์ ศรีราชา-อัสสัมชัญ บนถนนเก้ากิโลเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพัฒนาเป็นทาวน์โฮมและบ้านแฝดสไตล์อิตาลี จำนวน 476 ยูนิต ราคา 1.59-2.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,170 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขายกว่า 100 ยูนิต ซึ่งแนวทางการพัฒนาโครงการนั้นจะมีทั้งรูปแบบที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และบ้านที่สร้างไปขายไปตามงวดการผ่อนเงินดาวน์ 

“ตลาดต่างจังหวัดมีความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์โฮมและบ้านแฝด แต่การพัฒนาสินค้านั้นจะต้องตอบโจทย์ การพัฒนาสินค้าที่ต้องให้มากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งจะต้องพยายามหาดีมานด์ซ่อนเร้นที่จะมีอยู่ในทำเล โดยการพัฒนาสินค้าต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งาน ที่สำคัญจะต้องมีจำนวนยูนิตที่ไม่มากจนเกินไป”ภวรัญชน์ กล่าว