posttoday

เทรนด์อสังหา รองรับยุคผู้สูงวัย

18 สิงหาคม 2560

ไทยกำลังก้าวสู่ยุคสังคมสูงวัย และจะเต็มรูปแบบในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีสัดส่วนถึง 23% ของประชากร และคาดว่าในปี 2568 จะมีผู้สูงอายุถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคสังคมสูงวัย และจะเต็มรูปแบบในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีสัดส่วนถึง 23% ของประชากร และคาดว่าในปี 2568 จะมีผู้สูงอายุถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดโดยอยู่ที่ประมาณ 18.75 ล้านคน ดังนั้นเรื่องของการอยู่อาศัย รวมทั้งการดูแลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ภาครัฐและเอกชนเน้นหนักมากขึ้น

นพ.กรณ์ ปองจิตธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการแพทย์ โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เปิดเผยว่า ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป มีแนวคิดที่จะสร้าง "เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ" ซึ่งเป็นการสร้างนวัตกรรมผสานแนวคิด "Integrated Healt-care" การดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ และ "Tailor-made Medicine" แผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลอย่าง ครบวงจรจึงได้พัฒนาโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ขึ้น โดยมี วาเมด เฮลท์แคร์ เซอร์วิสเซส จากออสเตรียมาร่วมวางระบบ

ปัจจุบันเริ่มมีบริษัทพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์หันมาจับตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น แต่เป็นการขายโครงการและมีแพ็กเกจเซอร์วิสที่ร่วมกับพันธมิตรในการดูแลรักษาสุขภาพ ต่างกับของจิณณ์ ซึ่งเป็นการนำจุดแข็งของความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเฮลท์แคร์เป็นตัวชี้นำมาบูรณาการร่วมกับการอยู่อาศัย โดยเทรนด์นี้จะมาแรงและเชื่อว่าจะมีนักลงทุนอีกหลายรายเข้ามาในตลาดนี้และเป็นตลาดใหญ่

ฐิตารี อยู่วิทยา รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด โครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ กล่าวว่า จิณณ์เป็นโครงการที่นำการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการมาผนวกกับที่พักอาศัยที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงวัย พร้อม สิ่งอำนวยความสะดวกด้านไลฟ์สไตล์และบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 140 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ศูนย์รังสิต และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดง มูลค่าโครงการ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแผนการพัฒนาใน 5 ปี (2561-2665)

สำหรับการพัฒนาแบ่งเป็น 3 เฟส จะเริ่มดำเนินการในเฟสแรกก่อน มูลค่าลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่พักอาศัยอาคารในรูปแบบโลว์ไรส์ 7 ชั้น 13 อาคาร รวม 1,380 ยูนิต พื้นที่เริ่ม 43-66 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในรูปแบบฟรีโฮลด์ ราคาเริ่มต้น 3.69-6 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 9 หมื่น-1.2 แสนบาท/ตร.ม. ซึ่งจะเปิดขายช่วงพรีเซล ก่อนประมาณ 500 ยูนิต ขณะนี้มี ยอดขายแล้วกว่า 200 ยูนิต

หลังจากเปิดเซลส์แกลเลอรี่อย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.นี้ จะมีการปรับราคาขายอีก 10% โดยเริ่มต้นที่ 3.8 ล้านบาท โดยโครงการที่พักอาศัยจะเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้ และจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 2561 จากนั้นจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ คาดว่าในปีหน้าบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท และมีกำไรอยู่ราว 400-500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ภายในเฟสแรกยังมีอาคาร Pet Friendly จัดให้ไว้สำหรับผู้ที่รักสัตว์เลี้ยง รวมทั้งอาคารสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็น พิเศษ ภายในประกอบด้วยศูนย์ดูแล ผู้สูงอายุ มีห้องพักจำนวน 60 ห้อง ซึ่งให้บริการแบบรายวัน แบบพักค้างคืน และแบบดูแลระยะยาว คลินิกแพทย์ทั่วไป ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการและนักจิตวิทยา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับผู้สูงวัย อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลและคอมมูนิตี้มอลล์ภายในโครงการ ซึ่งอยู่ในแผนดำเนินการก่อสร้างในอนาคต

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็น กลุ่มระดับบีบวกขึ้นไป โดยสัดส่วนลูกค้าจะเป็นคนไทย 80% ต่างชาติ 20% ทั้งนี้จากยอดขายพบว่ากลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วน 50% อายุ 50-60 ปี อยู่ที่ 30% ที่เหลือต่ำกว่า 50% ลงมา และหลังจากเปิดเซลส์แกลเลอรี่ แล้ว บริษัทจะเปิดขายให้กับชาว ต่างชาติที่สนใจผ่านเอเยนซี ซึ่งขณะนี้มีหลายบริษัทให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น กลุ่มสแกนดิเนเวีย เป็นต้น

จากเทรนด์ที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงวัยเหล่านี้ ดังนั้นในช่วง 5 ปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ในรูปแบบเดียวกันในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ระหว่างดูรายละเอียดและทำเล เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต โดยขนาดพื้นที่ต้องไม่ต่ำกว่า 90 ไร่ เนื่องจากต้องกันเป็นพื้นที่ สีเขียวถึง 50%

เมื่อสังคมเปลี่ยน เทรนด์การอยู่อาศัยย่อมเปลี่ยน ดังนั้นที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมกับการบริการด้านสุขภาพจึงเป็นอีกเซ็กเมนต์ที่ธุรกิจอสังหาฯ รุกเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด ใครเริ่มก่อนย่อมเป็นต่อ