posttoday

อสังหาฯโละสต๊อก! ภาพรวมสะสมค้างกว่า 1 แสนยูนิต

26 มิถุนายน 2560

อสังหาฯ น่าห่วง สต๊อกเหลือขายกว่า 1 แสนยูนิต ค่ายใหญ่จัดลดราคากว่า 40% เร่งยอดรับรู้รายได้

อสังหาฯ น่าห่วง สต๊อกเหลือขายกว่า 1 แสนยูนิต ค่ายใหญ่จัดลดราคากว่า 40% เร่งยอดรับรู้รายได้

นายมานพ พงศทัต อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ภาพรวมของสต๊อกอสังหาริมทรัพย์พร้อมอยู่ที่สะสมในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมามีกว่า 1 แสนยูนิต ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 80% หรือประมาณ 8 หมื่นยูนิต ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท/ยูนิต อีก 2 หมื่นยูนิต เป็นโครงการแนวราบ

“ตลาดคอนโดมิเนียมน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีจำนวนยูนิตเหลือขายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในตลาดระดับกลาง-ล่าง กระจายอยู่ในหลายทำเลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่หากถามไปยังผู้ประกอบการจะบอกว่าไม่ใช่ว่าทุกทำเลที่เกิดปัญหาฟองสบู่หรือล้นตลาด ซึ่งการเก็บข้อมูลของบริษัทวิจัยอสังหาฯ หรือศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ก็ยังไม่ได้ตัวเลขที่ชัดเจนนักในสต๊อกยูนิตเหลือขายของผู้ประกอบการ แต่รู้ว่าเวลานี้น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีปัญหาการปฏิเสธการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน”นายมานพ กล่าว

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า เริ่มเห็นกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เพื่อระบายสต๊อกคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ออกไปให้ได้มากที่สุด โดยใช้กลยุทธ์การลดราคาขาย หรือการขายราคาเท่ากับวันที่เปิดตัวโครงการ เนื่องจากโครงการขายออกไม่หมดนั้น เมื่อโครงการมีการก่อสร้างเสร็จผู้ประกอบการจะต้องรับภาระในส่วนของค่าส่วนกลาง หากขายลดราคาแล้วโอนโครงการทันทีจะทำให้มียอดรับรู้รายได้รวดเร็ว

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า สต๊อกสะสมที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั้น ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น และอย่าเหมาเอาว่าคอนโดมิเนียมล้นตลาด กรณีนี้ต้องพิจารณาเป็นรายทำเลว่าตรงไหนที่ล้นตลาด

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า ในครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมนำสต๊อกคอนโดพร้อมอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ปริมณฑลและต่างจังหวัด 4,000 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นระดับราคาประมาณ 1 ล้านบาท/ยูนิต มาลดราคาครั้งใหญ่ และหากซื้อแบบบิ๊กล็อตจะลดมากกว่า 40% เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ในทันที เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่ระดับดังกล่าวส่วนใหญ่มีปัญหาการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน