posttoday

บางนา-อ่อนนุช ที่ดินราคาพุ่งปีละถึง20%

24 พฤษภาคม 2560

เรียลแอสเสทฯ ระบุ ย่านอ่อนนุช-บางนา รุ่งรับเมกะโปรเจกต์ขยาย ราคาที่ดินพุ่ง 15-20% ต่อปี

เรียลแอสเสทฯ ระบุ ย่านอ่อนนุช-บางนา รุ่งรับเมกะโปรเจกต์ขยาย ราคาที่ดินพุ่ง 15-20% ต่อปี

นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ทำเลย่านอ่อนนุชและบางนาในปัจจุบันเป็นพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพสูง ราคาที่ดินมีการปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 15-20% ปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 6 หมื่นบาท/ตารางวา หรือราคาต่อไร่กว่า 10 ล้านบาท และขณะนี้หาที่ดินราคาต่ำกว่าไร่ละ 10 ล้านบาทค่อนข้างยาก เนื่องจากทั้งภาครัฐและเอกชนเดินหน้าพัฒนาโครงการ จนถึงทำให้บริเวณอ่อนนุช-บางนาตอนต้น กลายเป็นนิวซีบีดี หรือศูนย์กลางพัฒนาเศรษฐกิจใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายแบริ่งไปสมุทรปราการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ขนาดเบาช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ ที่ถูกบรรจุไว้ในแผนอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจุบันย่านดังกล่าวมีโครงการอสังหาฯ เปิดขาย 37 โครงการ มีทั้งแนวราบและแนวสูง ซึ่งคิดเป็นจำนวน 9,991 หน่วย ประกอบด้วยโครงการแนวราบ 5,814 หน่วยหรือ 58% โครงการแนวสูง 4,177 หน่วย หรือ 42% เมื่อพิจารณาในส่วนอัตราการขายพบว่าแนวราบขายได้ดีกว่าแนวสูง ซึ่งใช้เวลาในการระบายหน่วยเหลือขายประมาณ 3 ปี และโครงการแนวสูงใช้เวลาระบายหน่วยเหลือขายประมาณ 5 ปี

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาโครงการแนวราบที่สามารถขายได้ดี 5 อันดับแรกในบริเวณนี้คือ บ้านแฝดราคา 3-10 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 2-5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 5-10 ล้านบาท

ด้าน นายวีระชัย หาญจริยากูล ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ธุรกิจบ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์ บริษัท เรียลแอสเสทฯ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการวิรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช บ้านเดี่ยวระดับราคา 5.99-12 ล้านบาท จำนวน 169 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายภายใน 2 ปี โดยได้เปิดขายเฟสแรกจำนวน 59 ยูนิต ขายได้แล้ว 50% และอยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 20 ยูนิต ซึ่งในปลายปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ส่วนต้นปี 2561 จะเปิดคอนโดมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท 

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 9 โครงการ คาดว่าในปีนี้จะมียอดรับรู้รายได้ 2,300 ล้านบาท