posttoday

แนะกู้บ้านดอกเบี้ยคงที่รับช่วงขาขึ้น

23 มีนาคม 2560

หากใครที่กำลังตัดสินใจขอสินเชื่อบ้านอยู่ ก็ควรรีบใช้โอกาสนี้เลือกเป็นดอกเบี้ยคงที่ (Fixed rate) ไว้ก่อนให้ได้นานที่สุด

โดย...ทีมข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์

ในที่สุดก็เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งในอนาคตก็มีแนวโน้มที่ดอกเบี้ยของไทยจะต้องปรับขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้น หากใครที่กำลังตัดสินใจขอสินเชื่อบ้านอยู่ ก็ควรรีบใช้โอกาสนี้เลือกเป็นดอกเบี้ยคงที่ (Fixed rate) ไว้ก่อนให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดภาระการผ่อนค่างวดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในส่วนของไทยมีแนวโน้มที่ดอกเบี้ยจะมีการปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้เงินค่างวดแพงขึ้น และได้วงเงินกู้น้อยลง

ดังนั้น ทางที่ดีคนที่มีความต้องการซื้อบ้านและมีความพร้อมอยู่แล้ว ก็ควรรีบไปขอสินเชื่อบ้านในช่วงนี้ก่อน เพราะยังมีดอกเบี้ยสินเชื่อคงที่ระยะ 1-3 ปี ให้เลือกอยู่ในตลาดพอสมควร อย่างล่าสุด ธอส.เองก็ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ออกมาอีก เพื่อหวังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า โดยกำหนดเป็นดอกเบี้ยคงที่นานถึง 3 ปีในชื่อโครงการ “สินเชื่อบ้านสบายใจ”

โครงการสินเชื่อดังกล่าวเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการขอสินเชื่อวงเงินไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับ MRR -3.15% ต่อปี (หรือปัจจุบันเท่ากับ 3.60% ต่อปี) ปีที่ 4จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ ดอกเบี้ย MRR -1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย ดอกเบี้ย MRR -0.50% ต่อปี (ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี) ให้กู้เพื่อซื้อปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น โดยเตรียมวงเงินไว้ถึง 2 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “บ้าน ธอส. อุ่นใจ” สำหรับลูกค้าวงเงินขอกู้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับ 3.50% ปีที่ 3 เท่ากับ 4.75% ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ ดอกเบี้ย MRR -1% กรณีลูกค้ารายย่อยดอกเบี้ย MRR -0.50% และกรณีซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยดอกเบี้ย MRR โดยเตรียมวงเงินไว้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าต้องยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

ด้าน ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่าแม้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว และคาดว่าจะส่งผลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของไทยที่อาจต้องมีการปรับขึ้นในอนาคตก็ตาม ซึ่งคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่คาดว่าคงเป็นการปรับขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มากกว่า เนื่องจากปัจจุบันสภาพคล่องในระบบการเงินของไทยมีอยู่สูงกว่า 3-4 ล้านล้านบาท ยังไม่เป็นแรงกดดันให้สถาบันการเงินต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อระดมเงินฝาก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารออมสินที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐจะพยายามคงอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานที่สุด ส่วนคนที่ต้องการซื้อบ้านในช่วงเวลานี้ยังไม่ต้องกังวล เพราะการกู้ 20-30 ปี ถือเป็นการกู้ระยะยาว ที่จะต้องผ่านวงจรดอกเบี้ยที่มีทั้งขาขึ้นและขาลงอยู่แล้ว