อสังหาฯ กลาง-เล็กฮึดสู้ผนึกกำลังเสริมแกร่งชนรายใหญ่

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ที่ผ่านมามีการจัดตั้งสมาคมที่เกี่ยวข้องกับวงการอสังหาริมทรัพย์หลายราย แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการจัดตั้งสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร เพื่อดูแลผู้ประกอบการรายขนาดกลาง-เล็ก เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก รวมไปถึงใช้เป็นตัวกลางในการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ที่มีเงินทุนมาร่วมกันพัฒนาโครงการให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่คุมตลาดอยู่กว่าครึ่ง

อภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร (REP) กล่าวถึงเหตุผลการจัดตั้งสมาคม ว่า ที่ผ่านมาตนเองเป็นผู้ให้คำปรึกษากับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ในชื่อบริษัท แองเจิ้ล กรุ๊ป จึงมองเห็นโอกาสที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะรายขนาดเล็กที่มีมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากให้สามารถพัฒนาและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเหมือนการจัดตั้งคลัสเตอร์ธุรกิจสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก่อสร้างเป็นสมาคมการค้า จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์

"วิสัยทัศน์ที่สำคัญของสมาคมคือสนับสนุน แบ่งปัน เชื่อมโยง ยกระดับและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารธุรกิจอย่างเท่าทันโลก สมาคมจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนผู้ดำเนินการอสังหาฯ ขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีความเข้มแข็งทุกด้านเพื่อรองรับการแข่งขัน สามารถเผชิญกับความเสี่ยง และตอบสนองความต้องการของสภาวะตลาดในยุค 4.0 ได้" อภิชาติ กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานของสมาคมนั้นจะเน้นที่ 1.เชื่อมโยงเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับสมาคมและหน่วยงานภาคอสังหาฯ เพื่อเป็นองค์การคู่ค้าและทำพันธกิจร่วมกัน 2.ลดต้นทุนจัดตั้งคณะที่ปรึกษาสมาคมเฉพาะ 7 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านการตลาด การเงิน ก่อสร้าง-วิศวกรรม ออกแบบ บัญชีภาษีกฎหมาย และนวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อให้คำปรึกษาสมาชิกเพื่อช่วยลดต้นทุนการว่าจ้างที่ปรึกษาของสมาชิก 3.เพิ่มทักษะ-จัดอบรมสัมมนาให้กับสมาชิกโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาให้ความรู้กับสมาชิก

4.เชื่อมโยงโลกไว้ด้วยเทคโนโลยี-นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเชื่อมโยงธุรกิจหรือพัฒนาด้านการตลาดให้สมาชิกเพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกิจของสมาชิก ทั้งนี้จะเน้นให้คำปรึกษากับสมาชิกแบบ 360 องศา ด้วยนักวิชาชีพ ผู้ประกอบการตัวจริงเสียงจริง นักประเมินค่าอสังหาฯ กลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง นักออกแบบ การเงิน การธนาคาร กฎหมาย โดยให้คำปรึกษาแบบเจาะลึกเฉพาะทางเพื่อนำไปใช้พัฒนาและแก้ปัญหาทางธุรกิจได้ทันที

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของสมาคมจะประกอบไปด้วย ทายาทเจ้าของธุรกิจ นักลงทุน เจ้าของที่ดิน ธุรกิจพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาฯ ในกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องการคาปรึกษา ซึ่งจากการวางแผนจัดตั้งสมาคมมานาน 1 ปี ปัจจุบันมีผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกกับสมาคมแล้ว 90 ราย และมีสมาชิกที่มาจากบริษัทข้ามชาติ เช่น จีน เกาหลี โดยมีสมาชิก 4 ประเภท ประกอบด้วยสมาชิกสามัญ วิสามัญ กิตติมศักดิ์ และทั่วไป

"ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีอุปสรรคที่ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีความตั้งใจทาธุรกิจกลับไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากขาดความเชี่ยวชาญ จึงทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ ดังนั้นถ้ามีสมาคมสำหรับกลุ่มธุรกิจนี้อย่างจริงจังก็จะเป็นโอกาสให้กลุ่มธุรกิจเหล่านี้มีโอกาสเติบโตขึ้นได้ ส่วนกลุ่มนักธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งทุนหรือมีปัญหาที่ไม่รู้จะไปปรึกษาใครก็จะมีศูนย์กลางในการเชื่อมโยง สนับสนุน และให้คำปรึกษา" อภิชาติ กล่าว

ปัจจุบันบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ครองส่วนแบ่งทางการตลาดอสังหาฯ อยู่ประมาณ 60-65% สัดส่วนที่เหลืออีก 35-40% นั้นเป็นของผู้ประกอบการรายขนาดกลางและเล็กที่ยังมีโอกาสเติบโตในธุรกิจนี้

"สภาพเศรษฐกิจไทยในเวลานี้ไม่เฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เปรียบเสมือนช่วงโพล้เพล้ ไม่มืดและไม่สว่าง แต่ก็เชื่อว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น ในปีหน้าจะเริ่มเห็นผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่ไม่เคยอยู่ในวงการพัฒนาอสังหาฯ ขยายไลน์ทางธุรกิจเข้ามาสู่ธุรกิจนี้มากขึ้น ผลจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเริ่มส่งผลดีกับเศรษฐกิจแม้จะไม่เติบโตขึ้นพรวดในทีเดียว"

ที่ผ่านมามีการประเมินว่า อสังหาฯ รายเล็กจะหายไปจากตลาดและจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด โดยที่ผู้ประกอบการรายใหญ่จะคุมความได้เปรียบในเกือบทุกประตู ผลักดันให้เกิดการร่วมกลุ่มของ เอสเอ็มอี อสังหาฯ เพื่อความอยู่รอดในอนาคต