ซี.พี.แลนด์สนลุยซื้อโรงแรมยุโรป

ซี.พี.แลนด์ หวังค่าเงินอ่อนเอื้อลุยซื้อโรงแรมในยุโรป-อังกฤษ พร้อมเจรจา ปตท.ผุดบัดเจ็ต โฮเต็ลในปั๊ม ระบุมีพนักงานกว่า 2 แสนคนรองรับ

น.ส.นราวดี วรวณิชชา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการลงทุนและบริหารโรงแรม บริษัท ซี.พี.แลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทยังมองหาโอกาสในการเข้าไปซื้อโรงแรมในทวีปยุโรปและในสหราชอาณาจักร หลังจากที่อังกฤษมีมติออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงทำให้ราคาขายอสังหาริมทรัพย์จะถูกลงจากเดิม 10%

นอกจากนี้ ยังสนใจเข้าไปเจรจากับ ปตท.เพื่อเปิดโรงแรมราคาประหยัดหรือบัดเจ็ต โฮเต็ลภายในสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างเพียงรายเดียวได้จำนวน 50 แห่ง ภายใน 5 ปี โดยพัฒนาเป็นโรงแรมขนาดเล็กได้ตามความต้องการในแต่ละพื้นที่

“ปัจจุบันพนักงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. ทั่วประเทศนั้นมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน และธุรกิจในเครือนั้นมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเซเว่นอีเลฟเว่น และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และโทรคมนาคม กระจายอยู่ทั่วประเทศ ที่จะเป็นฐานลูกค้าของโรงแรมได้” น.ส.นราวดี กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจโรงแรมในครึ่งปีหลังนั้นเชื่อว่ายังเติบโตได้ดี หลังจากรัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันงบลงทุนในปีนี้ไปกว่า 2 แสนล้านบาท จึงทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ดี สำหรับในปีนี้บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนในโรงแรมราคาประหยัด หรือบัดเจ็ต โฮเต็ล ในแบรนด์ ฟอร์จูน ดี และฟอร์จูน ดีพลัส เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยม

ทั้งนี้ ได้มีการลงทุนไปแล้ว 4 แห่ง ประกอบด้วย ฟอร์จูน ดี แม่สอด จะเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.นี้ ฟอร์จูน ดีพลัส เขาใหญ่ เปิดให้บริการเดือน พ.ค. 2560 ฟอร์จูน ดี เลย และฟอร์จูน ดี บุรีรัมย์ จะเปิดให้บริการภายในปี 2560 ซึ่งโรงแรมในรูปแบบดังกล่าวจะมีห้องพัก 79 ห้อง สำหรับแบรนด์ฟอร์จูน ดี อัตราค่าบริการ 750 บาท/คืน ส่วนแบรนด์ฟอร์จูน ดีพลัสนั้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางให้ เช่น ฟิตเนสเซ็นเตอร์ อัตราค่าบริการ 1,200-1,400 บาท/คืน

ขณะที่บัดเจ็ต โฮเต็ลนั้นก่อสร้างได้ง่ายในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากก่อสร้างเพียง 79 ห้อง จึงไม่ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ใช้เวลาก่อสร้างต่อแห่งนาน 16 เดือน โดยบริษัทตั้งเป้าจะเปิดโรงแรมรูปแบบดังกล่าวให้ได้ปีละ 5-6 แห่ง ขณะที่การลงทุนรวมโรงแรมตั้งแต่ 5 ดาวถึงบัดเจ็ต โฮเต็ลต่อปีจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ย 6-8 ปี

“ยุคปัจจุบันการท่องเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์กำลังเป็นที่นิยมในการพักผ่อน และนักท่องเที่ยวคำนึงถึงความคุ้มค่ามากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเร่งขยายแบรนด์ฟอร์จูน ดี ให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ที่มีความสะดวกสบาย ทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไฮสปีดอินเทอร์เน็ต ทีวี โดยจะพยายามขยายไปในตลาดที่การแข่งขันไม่รุนแรง อย่างเช่น จ.เชียงราย นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี นครศรีธรรมราช แต่จะไม่ทิ้งจังหวัดสำคัญอย่างเช่น ภูเก็ต กะบี่ และชลบุรี (พัทยา)”

น.ส.นราวดี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมในเครืออยู่ 3 แบรนด์ ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว, ฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ และฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม เป็นโรงแรม 4 ดาว และฟอร์จูน ริเวอร์ วิว นครพนม เป็นโรงแรม 3 ดาว และเตรียมเปิดแบรนด์ดีและดีพลัส 

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทได้ชะลอแผนการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดลดลง เนื่องจากซัพพลายที่ยังเหลือขายนั้นมีอยู่ค่อนข้างมาก เบื้องต้นเตรียมเปิดโครงการใหม่ที่ จ.ปราจีนบุรี ราคาขายเริ่มต้น 1.4 ล้านบาท/ยูนิต