posttoday

อสังหาฯครึ่งปีหลังส่อระเบิดศึกดุ

27 พฤษภาคม 2559

ศูนย์ข้อมูลฯ คาดครึ่งปีหลังอสังหาฯ เดือด แห่ผุดโครงการใหม่ปั้นยอดขาย หลังยอดเปิดตัวโครงการใหม่ 4 เดือนแรกลดฮวบ 22%

ศูนย์ข้อมูลฯ คาดครึ่งปีหลังอสังหาฯ เดือด แห่ผุดโครงการใหม่ปั้นยอดขาย หลังยอดเปิดตัวโครงการใหม่ 4 เดือนแรกลดฮวบ 22%

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยนับจากนี้ ผู้ประกอบการจะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลงมาก โดยมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ 100 โครงการ รวม 23,710 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 22% แบ่งเป็น บ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ 50 โครงการ รวม 9,880 หน่วย ลดลง 30% และอาคารชุดเปิดตัวใหม่ 40 โครงการ รวม 13,830 หน่วย ลดลง 16%

ทั้งนี้ เป็นเพราะในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ผู้ประกอบการเร่งโอนกรรมสิทธิ์โครงการพร้อมอยู่เพื่อให้ทันมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์ เหลือ 0.01% ที่เริ่มวันที่ 29 ต.ค. 2558-28 เม.ย. 2559 ทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่น้อยมาก ซึ่งหากวิเคราะห์จากภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 6 เดือนที่มีมาตรการดังกล่าว (พ.ย. 2558-เม.ย. 2559) ภาพยิ่งชัดเจน โดยมีที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ 171 โครงการ รวม 38,130 หน่วย ลดลง 28% แบ่งเป็น บ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ 114 โครงการ รวม 17,780 หน่วย ลดลง 11% และอาคารชุดเปิดตัวใหม่ 57 โครงการ รวม 20,350 หน่วย ลดลง 39%

"หลังจากหมดมาตรการฯ แล้ว ผู้ประกอบการจะพร้อมลุยเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป โดยเฉพาะตลาดบ้านแนวราบคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น" นายสัมมา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลฯ ยังประเมินว่าจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งปี 2559 จะยังใกล้เคียงกับปีที่แล้วหรืออาจจะลดลงเล็กน้อย โดยคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ทั้งปี 1.1 แสนหน่วย แบ่งเป็น บ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ 4 หมื่นหน่วย และอาคารชุดเปิดตัวใหม่ 6.1-6.2 หมื่นหน่วย

สำหรับภาพรวมยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่อนข้างลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะปัจจัยเดียวกันนั่นคือผู้ประกอบการเร่งขายสินค้าพร้อมอยู่ที่เป็นสต๊อกในมือและเร่งธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ให้ทันกับมาตรการฯ สะท้อนได้จากรายงานของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ที่ระบุว่า ยอดขายไตรมาส 1/2559 ของ 15 บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมมีมูลค่า 4.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 9.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2558

ด้าน นายรุ่งรัตน์ ลิ้มทองแท่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซื่อตรงกรุ๊ป กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการต้องดูสภาพคล่องของ ตัวเองเป็นหลัก โดยบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะทำตลาดยากขึ้น เพราะมีผู้เล่นรายใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่มทุนใหญ่เข้ามาในตลาดจำนวนมาก เช่น กลุ่มสิงห์ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มช้าง ฯลฯ ซึ่งจะเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดในหลายพื้นที่อย่างเลี่ยงไม่ได้