แนะอสังหาฯเล็กงัดสื่อออนไลน์สู้

กูรูแนะอสังหาฯ รายเล็ก หันใช้โซเชียลมีเดียสู้ ส่วนทุนญี่ปุ่นมองไทยเป็นช่วงเก็บที่ดิน

นายมานพ พงศทัต ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสื่อออนไลน์มีบทบาทกับการขายที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพราะการที่ผู้บริโภคคนไทยใช้สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้หันมาค้นหาข้อมูลที่อยู่อาศัยบนสื่อออนไลน์ มีการซื้อขายบนโลกออนไลน์ คนขายคนซื้อไม่จำเป็นต้องเห็นหน้ากันก่อนเหมือนในอดีต เช่นเดียวกับการโพสต์ขายหรือปล่อยเช่าที่อยู่อาศัยบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ก็เป็นอีกช่องทางที่ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ก็ควรใช้ควบคู่ไปกับสื่อออฟไลน์ด้วย

น.ส.ณัฏฐา หงษ์ทอง บริษัท ออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง แอด (เอ็นบี ไทยแลนด์) ผู้เชี่ยวชาญด้านแอด เวิลด์ (Adwords) กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายเล็กควรหันมาใช้สื่อออนไลน์ในการทำตลาดและสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้ ซึ่งในยุคที่สื่อออนไลน์มีบทบาทกับผู้บริโภคมาก ยิ่งทำให้ได้เปรียบ โดยควรใช้สื่อออนไลน์ให้ครบทุกรูปแบบ ทั้งการมีเว็บไซต์ ใช้โซเชียลมีเดีย และอาจจะซื้อโฆษณาบนออนไลน์ ซึ่งยังมีต้นทุนต่ำ และสามารถควบคุมต้นทุนได้ เช่น แบนเนอร์ หรือใช้กูเกิล แอด เวิร์ดส์ (Google Adwords) ซึ่งเป็นบริการโฆษณาบนเสิร์ชเอนจิ้น (Search Engine) ของกูเกิลที่คิดค่าบริการเป็นต่อคลิก ซึ่งเหมาะกับผู้ประกอบการรายย่อยมาก

"หากเปรียบเทียบกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือบิลบอร์ด ซึ่งเป็นสื่อยอดนิยมของโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว ต้นทุนสื่อโฆษณาบนโลกออนไลน์ถูกกว่ามาก อีกทั้งบิลบอร์ดทำเลดีๆ ส่วนใหญ่จะถูกผู้ประกอบการรายใหญ่จับจอง ซึ่งยากที่ผู้ประกอบการรายเล็กจะสู้ราคาค่าบิลบอร์ดได้" น.ส.ณัฏฐา กล่าว

นอกจากนี้ การใช้ยูทูบก็เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ โดยเจ้าของโครงการสามารถถ่ายทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับโครงการอัพโหลดขึ้นบนยูทูบได้ หรืออาจจะทำรายการเล็กๆ เป็นของตัวเองให้ความรู้เกี่ยวกับการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งการที่มีคอนเทนต์มากขึ้นบนยูทูบ จะทำให้เจ้าของคอนเทนต์ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ บนอันดับการค้นหา