posttoday

บ้านมือสองคึกคักรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

18 ตุลาคม 2558

ธุรกิจบ้านมือสองเชื่อมั่นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ช่วยบรรเทาตลาดซบ บสก.คัดทรัพย์เสนอขาย

ธุรกิจบ้านมือสองเชื่อมั่นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ช่วยบรรเทาตลาดซบ บสก.คัดทรัพย์เสนอขาย

นายสมศักดิ์ ชุติศิลป์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท บี.ซี.พี.เฮ้าส์ซิ่ง ผู้ดำเนินธุรกิจนายหน้าบ้านมือสอง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลประกาศใช้ช่วยกระตุ้นธุรกิจบ้านมือสองให้ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากช่วยทั้งผู้ที่จะขายบ้านมือสองและผู้ที่จะซื้อบ้านตัดสินใจรวดเร็วขึ้น จากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายบ้านมือสองของบริษัทค่อนข้างซบเซา เบื้องต้นประเมินว่ายอดขายจะต่ำกว่าปีก่อน 20% แต่หลังจากมีมาตรการออกมาใช้ชัดเจน โดยเริ่มมีผลในวันที่ 19 ต.ค.นี้ จะทำให้ยอดขายรวมของบริษัทอาจต่ำกว่าปีก่อนเพียง 10% ที่มียอดขาย 1,400 ล้านบาท

“ปีนี้ค่าเฉลี่ยของลูกค้าที่เข้ามาซื้อบ้านมือสองกับบริษัทอยู่ที่ 5 ล้านบาท/ยูนิต เพิ่มจากปีก่อนอยู่ที่ 4 ล้านบาท/ยูนิต ขณะที่กำลังซื้อในกลุ่มบ้านระดับต่ำ 2-3 ล้านบาทนั้น มักจะกู้ไม่ค่อยผ่าน ส่วนกลุ่มที่ซื้อบ้านราคาสูง 5 ล้านบาทนั้น จะไม่ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า หลังจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ประกาศใช้ คาดว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทปีนี้ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ค่อนข้างซบเซา โดยคอนโดมือสองที่ขายได้ดีส่วนมากจะอยู่บริเวณกรุงเทพฯ รอบนอก เพราะส่วนใหญ่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้ประโยชน์

ขณะที่ นายสมพร มูลศรีแก้ว รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาลทำให้มีลูกค้าสนใจเลือกซื้อบ้านมากขึ้น ซึ่งทาง บสก.ได้มีการตกแต่งและปรับปรุงสินทรัพย์ใหม่ (รีโนเวต) เป็นบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ประมาณ 300-400 ยูนิต คอนโดมิเนียม 500 ยูนิต เพื่อเตรียมเสนอขายลูกค้าในเร็วๆ นี้

“บสก.ยอมรับก่อนหน้านี้ว่ายอดขายทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมาย 20% แต่เมื่อมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ออกมา ทำให้คาดว่ายอดขายเอ็นพีเอจะเพิ่มกลับมาได้ตามเป้า”นายสมพร กล่าว

ทั้งนี้ บสก.ตั้งเป้าหมายขายเอ็นพีเอในปีนี้ที่ 8,310 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรก สามารถขายเอ็นพีเอได้ 5,174 ล้านบาท ลดลง 20% จากเป้าหมายที่วางไว้ 6,200 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อที่ดินหรือโรงงานเพื่อขยายกิจการ ขณะที่ผู้ซื้อรายย่อยบางกลุ่มไม่ผ่านการอนุมัติเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และเน้นลูกค้าคุณภาพเป็นหลัก

นายสมพร กล่าวด้วยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 บสก.เตรียมออกแคมเปญโครงการสบายคอนโดอีกครั้ง ในราคายูนิตละไม่เกิน 5 แสนบาท ผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท หลังจากที่ประสบความสำเร็จในโครงการสบายคอนโดก่อนหน้านี้ที่ขายได้กว่า 400 ยูนิต