posttoday

ราคาวัสดุก่อสร้างจ่อขึ้นอีก5%ตามต้นทุน

02 พฤษภาคม 2557

วัสดุก่อสร้างหืดจับ ต้นทุนพุ่ง ดันราคาขยับ 5% คอตโต้ปรับวิธีขายกระตุ้นกำลังซื้อ

วัสดุก่อสร้างหืดจับ ต้นทุนพุ่ง ดันราคาขยับ 5% คอตโต้ปรับวิธีขายกระตุ้นกำลังซื้อ

นายธนนิตย์ รัตนเนนย์ กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระเบื้อง "คอตโต้" เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างปีนี้ คาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 5% เนื่องจากต้นทุนการผลิตปรับขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าของผลิตภัณฑ์พยายามตรึงราคาขายเพื่อรักษาฐานความต้องการของตลาด

สำหรับกระเบื้องคอตโต้ได้ปรับวิธีการขายกระเบื้องเป็นแบบขายยกห้องแทนการเป็นราคาต่อ ตร.ม. เพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าราคาปรับขึ้นมากเกินไป โดยจะเปลี่ยนแบบห้องน้ำใหม่ในทุกโชว์รูมคอตโต้ ให้มีด้วยกัน 12 ห้องมาตรฐาน 3 ขนาดหลักๆ คือ ขนาดห้องน้ำแบบ 2x2 เมตร แบบ 2x3 เมตร และ 3x4 เมตร ราคาขายเฉลี่ยต่อห้องเฉพาะกระเบื้องไม่เกิน 2 หมื่นบาท หากรวมสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จะอยู่ที่ 3-5 หมื่นบาทต่อห้อง

นอกจากนี้ จะเน้นผลิตภัณฑ์กระเบื้องในราคาที่ถูกลงประมาณ 20% จากเดิมราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 400 บาทต่อ ตร.ม. เป็น 300 บาทต่อ ตร.ม. เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคและสอดรับกับตลาดกระเบื้องโดยรวมในไตรมาสแรกที่ผ่านมาหดตัว 8% คาดว่าทั้งปีจะหดตัวลง 8-10%

ทั้งนี้ ปริมาณการใช้กระเบื้องในแต่ละปีอยู่ที่ 175 ล้าน ตร.ม. คิดเป็นมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ส่วนกระเบื้องระดับไฮเอนด์ 45 ล้าน ตร.ม. คิดเป็นมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท คอตโต้มีส่วนแบ่งตลาด 5% ซึ่งปีนี้คอตโต้ตั้งเป้าเติบโต 15% หรือมียอดขาย 5,800 ล้านบาท

นายสมานชัย อธิพันธุ์อำไพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอวูด อินเตอร์เทรด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้พื้นจริง ไม้พื้นลามิเนต และประตูไม้ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับราคาสินค้าขึ้นแล้ว 5% เนื่องจากต้นทุนและค่าจ้างแรงงานปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างประเภทไม้ลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้ปีนี้บริษัทจะมียอดขายเติบโตเพียง 10% จากที่เคยเติบโต 15% มากว่า 10 ปี

ด้าน นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุทดแทนไม้ภายใต้แบรนด์ คอนวูด กลุ่มบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯ ไม่ค่อยสดใสนัก ผู้ประกอบการเปิดโครงการใหม่น้อยลง ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเงินกู้ยากขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ซึ่งหวังว่าวิกฤตทางการเมืองในประเทศน่าจะจบภายในปีนี้และกำลังซื้อจะฟื้นกลับมา