posttoday

เจาะมิกซ์ยูส "วัน-โอ-วัน" รับสุขุมวิทตอนปลายบูม

21 พฤศจิกายน 2559

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

หนึ่งในบิ๊กโปรเจกต์ย่านสุขุมวิทตอนปลายที่หลายคนจับตามอง และประเมินว่าจะเป็นหนึ่งในไอคอนสำคัญที่จะบูมให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านสุขุมวิท “วิสซ์ดอม 101” หรือที่เรียกกันว่า วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน พัฒนาโดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือเอ็มคิวดีซี

วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน สุขุมวิทซอย 101 เป็นการพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ย่านกลางเมืองบนเนื้อที่ราว 43 ไร่ ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.สโมสรกีฬาและสุขภาพ 1 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) อุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับฟิตเนสและสปอร์ตคลับ ห้องนั่งเล่น (Social Lounge) โซนครอบครัว คอร์ทเทนนิสในร่ม และสระว่ายน้ำแบบชายทะเลสไตล์รีสอร์ทแห่งแรกในกรุงเทพฯ

โซน 2.พื้นที่ร้านค้าปลีก 2 หมื่น ตร.ม. พื้นที่ในอาคารและพื้นที่นอกอาคาร เข้ากับพื้นที่ว่างสำหรับการทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ รวมถึงพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งยังมีพื้นที่สวนสาธารณะกว่า 5,000 ตร.ม. 3.พื้นที่สำนักงาน พื้นที่ให้เช่าทั่วไป 7 หมื่น ตร.ม. และแบบแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือโคเวิร์กกิ้ง สเปซ 2 หมื่นคน และ 4.พื้นที่โครงการที่พักอาศัย จำนวน 3 อาคาร พื้นที่ประมาณ 1.4 แสน ตร.ม. แล้วเสร็จทั้งหมดกลางปี 2561

สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ผู้อำนวยการบริหารเอ็มคิวดีซี กล่าวว่า การพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่เป็นมิกซ์ยูสคล้ายกับเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งต้องมีหลายองค์ประกอบ ทั้งทำเลที่ตั้ง เพราะไม่ใช่ที่ดินทุกแปลงจะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีพร้อมทั้งออฟฟิศ ค้าปลีก ที่อยู่อาศัย ฯลฯ อีกทั้งต้องอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการพัฒนา ทั้งเศรษฐกิจที่แข็งแรง ความต้องการของตลาด เพื่อให้ซัพพลายที่ใส่เข้าไปสอดรับกับดีมานด์ที่มี

นอกจากนี้ การขยายตัวของกรุงเทพฯ ทำให้ความเป็นเมืองขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะสุขุมวิทชั้นในเหมือนในอดีต ประกอบกับการมีรถไฟฟ้ายังทำให้สุขุมวิทตอนปลายพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ในทุกด้านได้ เพราะบริเวณนี้ขยายตัวมานาน มีชุมชมดั้งเดิม มีห้างสรรพสินค้า มีศูนย์แสดงสินค้าไบเทค มีทางด่วน มีความพร้อมที่จะใส่อาคารสำนักงาน เพื่อสร้างให้เป็นพื้นที่แหล่งงานใหม่ๆ ได้ และเมื่อมีแหล่งงานก็จะเกิดความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งแบบซื้อและเช่ามากขึ้น

ภาพรวมของเมืองกรุงเทพฯ ชั้นในสุขุมวิทตอนต้นยาวจนถึงทองหล่อ เป็นจุดที่บูมอยู่ก่อนแล้ว ส่วนบริเวณสุขุมวิทตอนปลายตั้งแต่พระโขนงก็ยาวไปถึงบางนายังไม่มีแม่เหล็กใหม่ๆ เลย วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน จึงมาเติมช่องว่างส่วนนี้ โดยพื้นที่สำนักงานจะมีคน 2 หมื่นคน มาทำงาน คนกลุ่มนี้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนหนึ่งมีทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น ตั้งใจจะปั้นให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของไทย ที่จะรวบรวมกลุ่มสตาร์ทอัพทั้งไทยและต่างชาติมาอยู่ในพื้นที่นี้จะทำให้ต่างชาติรู้จักสุขุมวิทตอนปลายมากขึ้น

ปัจจัยดังกล่าวทำให้คอนโดมิเนียมในโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน ได้รับความสนใจจากกลุ่มซื้อเพื่อลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ราว 30% เพราะมองเห็นโอกาสในการปล่อยเช่าให้กับคนที่ทำงานในโครงการนี้ และไม่เพียงแต่คอนโดมิเนียมในโครงการนี้จะได้รับความสนใจ แต่เพราะเกิดแหล่งงานใหม่ในบริเวณนี้ จึงจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในภาพรวมย่านสุขุมวิทตอนปลายเพิ่มขึ้นด้วย

“เราใช้เวลานานถึง 2 ปีหลังจากที่ได้ที่ดินแปลงนี้ในการทำวิจัยแผนพัฒนาที่ดิน ทั้งดูงานในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน จนกระทั่งซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก แล้วก็กลับมาดูความต้องการของคนในกรุงเทพฯ เพื่อหาโมเดลในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่เหมาะกับตลาดในเมืองไทย”

สำหรับโมเดลการพัฒนาเมืองในเมืองเช่นนี้ ในหลายประเทศก็มีการสร้างเมืองใหม่ๆ ที่มีแนวคิดแตกต่างกันไป เช่น เมืองที่สร้างเพื่อคนรุ่นใหม่อย่างโครงการบล็อก 21 ในสิงคโปร์ โครงการเมจิก ในมาเลเซีย หรือในจีนก็มีที่เสิ่นเจิ้น ฯลฯ โดยโครงการลักษณะนี้จะเปิดหน้าดินใหม่ๆ สร้างจุดศูนย์กลางใหม่ๆ ให้กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ในส่วนของไทยต้องยอมรับว่า ภาคเอกชนไทยแข็งแรงมาก ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยมีส่วนสำคัญมากในการพัฒนาเมือง เห็นได้จากหลายโครงการขนาดใหญ่ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังเกิดขึ้น ล้วนยกระดับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เทียบชั้นระดับสากลได้