posttoday

เมื่อบ้านเย็น ก็อยู่สบาย

31 พฤษภาคม 2560

ทันทีที่ถึงถนนพุทธบูชา ย่านพระรามสอง ประตูไม้สักสีน้ำตาลโดดเด่นเปิดต้อนรับให้เข้าไปในบ้านที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่รวมกว่า 3 ไร่

โดย...สมแขก ภาพ  ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ทันทีที่ถึงถนนพุทธบูชา ย่านพระรามสอง ประตูไม้สักสีน้ำตาลโดดเด่นเปิดต้อนรับให้เข้าไปในบ้านที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่รวมกว่า 3 ไร่ เป็นบ้านที่เจ้าของบ้านมีส่วนร่วมในการออกแบบ แม้อายุของบ้านหลังนี้รวมแล้ว 10 ปี แต่ด้วยการดูแลรักษาอย่างดี บวกกับบรรยากาศที่โล่งสบายทำให้บ้านน่าอยู่มากทีเดียว

แนท-อภินัทธ์ กันตนฤมิตรกุล หนุ่มวัย 25 ปี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท A.N.B.แพคเกจจิ้ง ออกมาต้อนรับทักทาย ก่อนจะพาชมส่วนต่างๆ ของบ้านที่แสนอบอุ่น ที่มีสมาชิก 5 คนในบ้าน ประกอบด้วย คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว น้องสาว และตัวเขา

เมื่อบ้านเย็น ก็อยู่สบาย

เมื่อเข้าไปในบ้านทำให้เจอห้องโถงใหญ่ ที่จัดไว้สำหรับต้อนรับแขก และเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในบ้าน ด้านข้างสองฝั่งเป็นห้องนั่งเล่นที่แบ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องอาหารเมื่อแขกมาที่บ้าน มีทางเดินเชื่อมไปยังสวนหลังบ้าน เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่เย็นร่มรื่น แต่อบอุ่นในคราวเดียวกัน

เจ้าของบ้านหนุ่มเล่าว่า บ้านนี้อายุเกิน 10 ปีแล้ว “เราย้ายมาจากบ้านสาธุประดิษฐ์ คุณแม่ให้สถาปนิกช่วยออกแบบ โดยใช้ไม้เก่าจากบ้านเดิมมาผสมกับไม้สักแผ่นที่ซื้อมาใหม่ ทำให้บ้านเราเป็นบ้านไม้ที่ผสมผสานระหว่างไทยทางเหนือ มีจีน และโมเดิร์นอยู่ในหลังเดียว

เมื่อบ้านเย็น ก็อยู่สบาย

บ้านนี้ใช้เวลาสร้างกว่า 2 ปี ไอเดียส่วนใหญ่เป็นของคุณแม่ แต่สำหรับพื้นที่ในห้องนอนพวกเรา 3 คน ก็จะมีส่วนร่วมบ้าง คุณพ่อคุณแม่มองการณ์ไกล ห้องนอนของท่านทั้งสองจึงอยู่ด้านล่าง ขณะที่ห้องนอนของลูกๆ อยู่ชั้น 2 ซึ่งด้านบนก็จะมีโซนรับแขกเล็กๆ และห้องนอนของพวกเราจะใหญ่มากครับ คุณแม่บอกว่าสร้างเผื่อไว้ว่าถ้าลูกๆ แต่งงานก็พร้อมให้เขยและสะใภ้ย้ายมาอยู่ได้เลย (ยิ้ม)”

แนท บอกว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ใช้พลังงานน้อยมาก เนื่องจากคุณแม่ได้รับคำแนะนำให้ติดฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา บวกกับการออกแบบที่ให้ห้องโถงมีเพดานสูง ก็ยิ่งทำให้บ้านเย็นเพิ่มขึ้น พูดได้ว่าในห้องโถงที่เป็นพื้นที่กิจกรรมของครอบครัวเปิดเพียงพัดลมตัวเดียวก็เย็นได้แล้ว

เมื่อบ้านเย็น ก็อยู่สบาย

“ทุกเช้าก่อนออกไปทำงานเราจะมาเจอกันที่ห้องนี้ นั่งพูดคุย อัพเดทชีวิตกันที่นี่ รวมทั้งตอนเย็นก็จะมีนั่งพูดคุยกัน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่บ้านหลังนี้สร้างเสร็จ ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ อาจจะมีห่างหายไปบ้างที่ผมไปเรียนต่างประเทศ น้องสาวไปเรียนต่างประเทศ แต่ทุกครั้งที่ได้อยู่บ้าน พวกเราจะมารวมกันในห้องนี้ เป็นห้องที่ไม่มีทีวี แต่พวกเราแค่นั่งคุยกันก็ไม่เคยเบื่อ”

ก่อนที่บ้านหลังนี้จะเสร็จ ภาพที่คิดไว้ก็ไม่ต่างจากบ้านที่เคยเห็นในนิตยสาร แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งบ้านหลังนี้ค่อยๆ ถูกดัดแปลงและเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย “ก่อนหน้านี้เรามีบ่อน้ำกลางบ้านเพื่อเลี้ยงปลา เพราะคุณพ่อชอบ และเห็นว่าสวยดี แต่ผู้ใหญ่หลายท่านทักว่าไม่ดี ประกอบกับดูแลรักษายาก และยังสร้างความชื้นให้บ้าน ก็เลยถมดินและทำเป็นโถงทางเดินแทน คุณแม่บอกว่า เราต้องปรับให้เข้ากับการอยู่อาศัยของเรา ถ้าอะไรที่ไม่ดี สิ้นเปลือง และไม่คุ้ม ก็ไม่ควรมี”

เมื่อบ้านเย็น ก็อยู่สบาย

สิ่งหนึ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เย็นและอยู่สบาย ก็คือบรรยากาศที่น่ารักในบ้าน เพราะทุกคนในบ้านพูดจากันด้วยเหตุผล ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทำให้ไม่มีเหตุให้ทะเลาะ แม้ทุกคนจะทำงานในบริษัทเดียวกัน แต่ไม่เคยนำเรื่องงานมาคุยให้หนักใจในบ้าน หาโอกาสกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ

“พวกเราพี่น้องแทบไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ บ้านเราอยู่ด้วยกันบนพื้นฐานความเข้าใจ เราเห็นคุณพ่อคุณแม่ทำงานหนัก ก็พยายามทำตัวให้เป็นเด็กดี ทำหน้าที่ของทุกคนให้ดี ผมเรียนจบมาก็ตั้งใจจะมาช่วยงานท่านเพื่อแบ่งเบาภาระ ท่านทั้งสองก็จะได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเต็มที่ คุณแม่เองชอบอยู่บ้าน ดูแลต้นไม้ และกำลังจะสร้างตู้ปลาให้คุณพ่อแทนบ่อปลาที่เราถมไป” แนท กล่าวยิ้มๆ