พัชรินทร์ ตันชัยเอกกุล ชอบแนววินเทจ เก่าๆ หวานๆ
การเลือกซื้อบ้านของแต่ละคนนั้นก็จะเลือกตามเหตุปัจจัยต่างๆ กันไป บางคนใกล้ที่ทำงาน บางคนใกล้บ้านพ่อแม่
โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
การเลือกซื้อบ้านของแต่ละคนนั้นก็จะเลือกตามเหตุปัจจัยต่างๆ กันไป บางคนใกล้ที่ทำงาน บางคนใกล้บ้านพ่อแม่ หรือบางคนชอบทำเล แบบบ้าน แต่สำหรับเธอคนนี้ขอเลือกใกล้โรงเรียนลูกเป็นหลัก เพื่อสะดวกในการรับส่งและลูกจะได้ไม่ต้องตื่นเช้าจนเกินไป นั่นเป็นเหตุผลข้อแรก เหตุผลตามมา ก็คือ บ้านในโครงการนี้แบบสวยงามและจัดให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่าโครงการทั่วไป เป็นโครงการที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว
ผู้บริหารสาวสวยของบริษัทประกันสัญชาติอิตาเลียน โบ-พัชรินทร์ ตันชัยเอกกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) เล่าว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังที่ 2 ที่แยกออกมาจากครอบครัว โดยเธอมาอยู่กับลูกสาว บ้านร่มรื่นเขียวครึ้ม ทั้งบรรยากาศภายในโครงการและในส่วนของบ้านของเธอเองก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวไม่แพ้กัน
บนเนื้อที่เกือบ 70 ตร.ว. บ้านหลังกะทัดรัดสำหรับครอบครัวขนาดเล็กๆ ตกแต่งสไตล์วินเทจ ในแบบอิงลิช คอตเทจ เธอบอกว่าซื้อบ้านหลังนี้มาประมาณ 7 ปี เพราะใกล้กับโรงเรียนของลูกสาว การตกแต่งภายในนั้นเธอตกแต่งเองหมด ตั้งแต่เลือกของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่านต่างๆ ที่หลายชิ้นสั่งมาจากร้านของเก่าที่ประเทศอังกฤษ โคมไฟหลายชิ้นก็ไปได้มาจากอยุธยา สุโขทัย เป็นของเก่ายุครัชกาลที่ 4
“เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้น ก็เป็นของสะสมในแบบที่เราชอบ เพราะเป็นสาวกของเก่าของวินเทจมานานแล้ว เจอก็จะซื้อเก็บสะสมเอาไว้ ทั้งโคมไฟ โทรศัพท์ ตู้ โดยเฉพาะโคมไฟนี่ซื้อเก็บไว้เยอะมาก ทุกอย่างล้วนเป็นของวินเทจทั้งสิ้น ซึ่งต้องไปหาตามตลาดของเก่าทั้งในและต่างประเทศ ในบ้านเราที่ไปบ่อยๆ ก็คือ อยุธยา เชียงใหม่ สุโขทัย จะมีแหล่งร้านขายของเก่าหลายร้าน”
เธอบอกว่า พอแยกบ้านออกมาก็เอาของที่เก็บสะสมเอาไว้ค่อยๆ มาตกแต่ง ก็โชคดีที่เข้ากันได้ดี เนื่องจากความชอบของเธอชัดเจนในสไตล์วินเทจ แต่ขอเจาะไปเป็นสวยๆ หวานๆ แบบอิงลิช คอตเทจ เข้ามาแล้วก็จะเห็นว่าเป็นบ้านของผู้หญิ้งผู้หญิงมากๆ เลย (หัวเราะ)
บ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างมี 1 ห้องน้ำ มีห้องรับแขกใหญ่ ห้องนั่งเล่นเล็ก ห้องครัวฝรั่งที่มีส่วนทานข้าวอยู่ด้วย มีส่วนซักล้างอยู่ด้านหลังอีก 1 ห้อง ด้านหลังทำเป็นสวนโดยรอบทั้งหลังบ้าน ด้านข้าง และหน้าบ้าน มีการปรับเปลี่ยนประตูหลังบ้านออกไปสู่สวนใหม่ โดยเธอไปซื้อประตูโบสถ์เก่ามาทำกรอบใหม่
ส่วนชั้นบน มี 3 ห้องนอน 1 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอนเล็ก โดยเธอปรับพื้นที่ของห้องนอนเล็กให้เป็นห้องทำงาน โดยเธอได้ตกแต่งห้องนอนใหญ่เป็นสไตล์สาวหวาน “แต่พออยู่ไปสักพักเราเริ่มแน่ใจว่าสไตล์สาวหวานไม่ใช่เราเท่าไหร่ โอเคเราชอบแนววินเทจจริง เราชอบสไตล์อังกฤษจริง แต่ไม่ใช่สไตล์หวาน ดังนั้นก็ให้บทเรียนว่าสิ่งที่คิดว่าใช่ พอตกแต่งและใช้งานไปสักพักที่คิดว่าใช่ก็เกิดไม่ใช่ขึ้นมา เราจะมีความชัดเจนขึ้นมาว่ามันใช่เราหรือเปล่า (หัวเราะ) เธอบอกว่า หากมีโอกาสซื้อบ้านหลังต่อไป เธอจะลองตกแต่งสไตล์ลอฟต์ดิบๆ ดูบ้าง” เธอเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ฟัง
นิยามคำว่า บ้าน ของเธอนั้น คือ การที่อยู่แล้วสบาย เป็นส่วนตัว เป็นตัวของตัวเอง จะนั่ง นอน ตรงไหนก็ได้ “โดยส่วนตัวเราไม่ชอบออกงานสังคม จะชอบอยู่บ้าน เวลาวันหยุดส่วนใหญ่จะอยู่บ้านจริงๆ ไม่ค่อยจะออกไปไหน ชอบซุกตัวอยู่บ้านอ่านหนังสือ จิบชา ใช้ชีวิตช้าๆ สบายๆ” เธอบอกด้วยรอยยิ้ม