posttoday

'เศรษฐา'เชื่อมือ'พิชัย'เคลียร์ใจธปท.กลับมาสนองนโยบายรัฐบาล

07 พฤษภาคม 2567

นายกฯเศรษฐา ทวีสิน นำรมต.ป้ายแดง ร่วมถ่ายภาพหมู่ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กำหนดกรอบเวลา​ ตั้ง KPI รัฐมนตรี​ตรีใหม่​ช้า-เร็วขึ้นอยู่กับงาน เชื่อมั่นพิชัยเคลียร์ใจธปท.สนองนโยบายรัฐบาล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีใหม่ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (7 พ.ค.) ก่อนที่การประชุมคณะรัฐมนตรีจะเริ่มขึ้น ท่ามกลางสภาพอากาศที่กรุงเทพมหานคร ต้องเผชิญกับพายุฤดูร้อน มีฝนตกในหลายพื้นที่ ซึ่งในตอนแรก เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ได้เตรียมสถานที่ ทั้งปูพรมแดง และเตรียมเก้าอี้ แต่ปรากฏว่า มีฝนตกโปรยปรายลงมา จึงทำให้ต้องย้ายไปถ่ายภาพหมู่คณะมนตรี ภายในห้องโถงตึกสันติไมตรี เว้นเพียงนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ได้มาร่วมถ่ายรูป เนื่องจากติดภารกิจที่ประเทศมาเลเซีย  

\'เศรษฐา\'เชื่อมือ\'พิชัย\'เคลียร์ใจธปท.กลับมาสนองนโยบายรัฐบาล

นายเศรษฐา​ ตอบข้อซักถามเรื่องการแบ่งงาน ของรัฐมนตรีกระทรวง​ต่างๆว่า ต้องให้เกียรติรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างๆ ว่าจะแบ่งการกันอย่างไร ส่วนตำแหน่งของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีการแบ่งงานเรียบร้อยแล้ว 95% บางกระทรวงอาจจะต้องมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีคนเก่า ถ้ายังมีงานค้าง เพราะการดูแลประชาชนก็ต้องให้เขาช่วยเหลือ​  

"การแบ่งงานในส่วนของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้บอกไปแล้ว ดูความเหมาะสมและความสามารถของแต่ละบุคคลถ้ายังมีบางเรื่องที่ยังทับซ้อนกันอยู่บ้าง ก็ต้องมาพูดคุยกัน ส่วนจำเป็นต้องพูดคุยกับรัฐมนตรีคนเก่าหรือไม่ หากท่านสะดวก หรือจะพูดคุยกับปลัดกระทรวงก็ได้ไม่อยากให้เป็นบรรทัดฐานในการทำงาน  บางครั้งก็มีโครงการค้างอยู่ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไรก็ต้องทำต่อไปเราทำทุกเรื่องตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา อันนี้เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญมาก" นายกฯเศรษฐา กล่าว 

เมื่อถามว่า ปรับ ครม. แล้วจะทำให้การทำงานขับเคลื่อนไปได้ด้วยดีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นั่นคือจุดมุ่งหมายหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเก่าจะขับเคลื่อนไม่ได้เคยบอกแล้วว่าในช่วงเวลาที่มันเปลี่ยน 8-9 เดือนที่ผ่านมา มันก็มีความต้องการในภาคส่วนที่ต่างออกไป เมื่อต้องมีการเสริมงานกับฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไป

เมื่อถามว่า การปรับ ครม. ครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นมากขึ้นหรือไม่ นายกฯ​ กล่าวว่าความเชื่อมั่นมากับผลงาน​ การพูดจามันก็เป็นส่วนหนึ่ง เหมือนกับการให้ความคาดหวัง แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลงาน อยากจะขอความยุติธรรมด้วย ว่าหลายๆนโยบายต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน รวมไปถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพ​ เชื่อว่าเรื่องเหล่านี้น่าจะได้เริ่มต้น

\'เศรษฐา\'เชื่อมือ\'พิชัย\'เคลียร์ใจธปท.กลับมาสนองนโยบายรัฐบาล

 

ส่วนกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง​ เตรียมหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายกฯเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าทุกความเคลื่อนไหวมันทำให้ลดความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่เหมาะสม และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำและเชื่อมั่นว่า นายพิชัยจะสามารถแก้ไขปัญหาทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตอบสนองนโยบายของรัฐบาลเพราะอย่างน้อย2ฝ่ายมีความพยายาม ก็เป็นเรื่องที่ดี

เมื่อถามว่า มีการสำรวจความเห็นของประชาชน 7 เดือน ที่ทำงานมา ได้ 6-7 คะแนน ปรับ ครม. แล้วจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายกฯ​ กล่าวว่า การให้คะแนนเป็นเสียงสะท้อนอย่างหนึ่ง การมาอยู่ตรงนี้เป็นหน้าที่ที่ต้องรับฟังเสียงสะท้อน ไม่ว่าจะได้คะแนนเท่าใด มันก็ไม่เต็มสิบ ดังนั้นเราก็มีความพยายามทำงานต่อไป จะต้องมานั่งดูว่าส่วนใดที่ทำได้ไม่ดี แต่หากสิ่งไหนที่พยายามแล้ว แต่ยังติดขัด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคณะทำงานด้วย​

นายกฯ​เศรษฐา ยังระบุด้วยว่า​ การทำงานกับข้าราชการไม่มีปัญหา และคิดว่าข้าราชการเป็นส่วนหนึ่ง และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ โดยจะต้องมีการพูดคุยกันและเน้นเนื้องานเป็นหลัก แต่ปัญหาวันนี้มันอยู่ที่ว่า ปัญหาใหญ่เหลือเกิน อันนี้คือปัญหามากกว่า เพราะหากปัญหาใหญ่มากๆ ก็ต้องใช้ทุกภาคส่วน

เมื่อถามว่า จะต้องมีการกำหนด KPI รัฐมนตรีใหม่หรือไม่ ว่าผลงานต้องเห็นชัดภายในกี่เดือน นายกฯ​ กล่าวว่า​ ต้องมีการพูดคุยกัน บางเรื่องต้องให้เสร็จเมื่อไหร่ บางเรื่องเราก็อาจจะพูดถึงสิ่งที่เราอยากเห็น เงื่อนไขของเวลา บางครั้งก็มีตัวแปรอื่น ที่มันไม่สามารถควบคุมได้ แต่ KPI พวกนี้เราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด 

เมื่อถามต่อว่าจะมีการกำหนด KPI ในระยะเวลา 6-7 เดือนเหมือนเดิมหรือไม่ นายกฯ​ กล่าวว่า​ ไม่เกี่ยว บางเรื่องหากต้องจบภายใน 2 สัปดาห์ก็ต้องจบ บางเรื่องต้องใช้เวลา 2-3 ปีก็มี เพราะหลายเรื่องมันต้องใช้เวลา เช่นเรื่องการลงทุนต้องประสานงานกับทุกฝ่าย แต่ตนมั่นใจว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทุกคนจะให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชนหลังเป็นหลัก.