พลิกแฟ้มทีมปฏิรูป "คนดัง-คนเดิม-คนกันเอง"
จากนี้ไปจะมีเพียงแต่ผลงานเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงานและลบคำสบประมาทได้
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศจำนวน 120 คน ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศพ.ศ.2560 ตามขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 11 คณะจะเริ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประธานคณะกรรมการฯแต่ละคณะมาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน จากนั้นแต่ละคณะจะกลับไปประชุมตามสายงานของตัวเองต่อไป
ภาพรวมของคณะกรรมการปฏิรูปจำนวนหนึ่งต้องถือว่าประกอบไปด้วยคนหน้าเดิมที่ล้วนเคยผ่านการทำงานร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแม่น้ำ 5 สาย
เริ่มที่ คณะกรรมการปฏิรูประเทศด้านการเมือง น่าสนใจตรงที่ ‘เอนก เหล่าธรรมทัศน์’ ประธานคณะกรรมการ ก่อนหน้านี้ก็ร่วมทำงานกับคสช.มาทั้งในตำแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.)
ชื่อของอาจารย์เป็นที่ติดตราตรึงใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.มาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากในอดีตที่มีการตั้งแม่น้ำ 5 สายใหม่ๆ และพล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกประชุมแม่น้ำ 5 สาย มักจะไต่ถามถึงอาจารย์อเนกเสมอเพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับการเมืองและการสร้างความปรองดอง
ในกลุ่มของคณะกรรมการปฏิรูประเทศด้านการเมืองมีอีกคนที่น่าสนใจ คือ ‘นรรัตน์ พิมเสน’ อดีตเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งสมาชิกขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มาสดๆร้อนๆ
แม้ชื่อในทางการเมืองจะดูเงียบๆ แต่ถ้าลงลึกไปถึงคอนเนกชั่นแล้วถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะผ่านหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ 20 ประจำปีการศึกษา 2550-2551 รุ่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่สมัยยังครองยศพล.ท.ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1
นอกจากนี้ยังมีกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองที่ผ่านในตำแหน่งแม่น้ำ 5 สายมาแล้วด้วย อาทิ ‘พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก’ ‘วันชัย สอนศิริ’ ‘วรรณธรรม กาญจนสุวรรณ’
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย เป็นอีกหนึ่งคณะที่อุดมไปด้วยแม่น้ำ 5 สายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘บวรศักดิ์ อุวรรณโณ’ ซึ่งไม่กี่ปีมานี้เพิ่งผิดหวังกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ แม้เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญจะออกแบบมาได้ แต่เมื่อถูกสปช.ลงมติไม่เห็นชอบ ส่งผลให้บวรศักดิ์ต้องผิดหวังไม่น้อย จนหันหลังให้กับคสช.ไปพักใหญ่ ก่อนที่จะกลับมาทำงานกับคสช.และรัฐบาลในตำแหน่งประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย
เช่นกันกับ ‘คำนูณ สิทธิสมาน’ ได้กลับมาทำงานร่วมกับบวรศักดิ์อีกครั้งหลังจากต่างผิดหวังกับการถูกสปช.ลงมติไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมากับมือ โดยคำนูณเป็นหนึ่งคนที่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ตำแหน่งสมาชิกสนช.ปี2549 สมาชิกสปช. กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกสปท.
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เป็นอีกคณะที่น่าสนใจเหมือนกัน เพราะมีคนในแม่น้ำ 5 สายมาร่วมทีมด้วย นำโดย ‘อัชพร จารุจินดา’ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตสมาชิกสปท.
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ นับเป็นแหล่งรวมเหล่ากูรูด้านเศรษฐกิจไว้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจำเป็น ‘ประสาร ไตรรัตนฺวรกุล’ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ‘กอบศักดิ์ ภูตระกูล’ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตกมธ.ยกร่างฯและอดีตสมาชิกสปช.และสปท. ‘ชาติศิริ โสภณพนิช’กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นอีกคณะบุคคลคณะหนึ่งที่อุดมไปด้วยเหล่าแม่น้ำ 5 สายเช่นกัน เช่น นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตกมธ.ยกร่างฯ ‘ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์’ อดีตสมาชิกสปช. ‘บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์’ อดีตกมธ.ยกร่างฯ โดยในรายของบัณฑูร ถือเป็นชื่อแรกๆที่อยู่ในบัญชีการจัดโผของพล.อ.ประยุทธ์
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อพลิกชื่อดูแล้วจะพบว่าล้วนแต่ประกอบไปด้วยคนมือดีทั้งสิ้น โดยมีอดีตกรรมการป.ป.ช.มารวมทีมถึง 3 คน ได้แก่ ‘ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ’ ‘กล้านรงค์ จันทิก’‘วิชา มหาคุณ’
พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตสมาชิกสปท.อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษและนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานองคมนตรี ‘พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์’ อดีตสว.สรรหา เตรียมทหารรุ่น 6 รุ่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม
นับตั้งแต่มีการประกาศชื่อออกมา ปรากฏเสียงวิจารณ์ในแง่ลบค่อนข้างมาก จากนี้ไปจะมีเพียงแต่ผลงานเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงานและลบคำสบประมาทได้