posttoday

"ประวิตร" เชื่อ คดี"ยิ่งลักษณ์-จตุพร"ไม่กระทบปรองดอง

21 กรกฎาคม 2560

พล.อ.ประวิตร เตรียมส่งร่างสัญญาประชาคมให้นายกฯ 24 ก.ค. นี้ มั่นใจคดี "ยิ่งลักษณ์-จตุพร"ไม่กระทบปรองดอง คาดโผทหารเข้าที่ประชุมปลายก.ค. เชื่อไร้ปัญหา

พล.อ.ประวิตร เตรียมส่งร่างสัญญาประชาคมให้นายกฯ  24 ก.ค. นี้ มั่นใจคดี "ยิ่งลักษณ์-จตุพร"ไม่กระทบปรองดอง คาดโผทหารเข้าที่ประชุมปลายก.ค. เชื่อไร้ปัญหา

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ครั้งที่ 5/2560 ว่า วันนี้คณะกรรมการได้พิจารณาผลภายหลังจากที่ลงไปเปิดเวทีสาธารณะ ชี้แจงร่างสัญญาประชาคม ครบทั้ง 4ภาคแล้ว ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง และจะมีคณะกรรมการพิจารณาเพิ่มเติม ข้อคิดเห็นให้มากขึ้นและจะมีการแก้ไขก่อนส่งนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในวันจันทร์ที่24ก.ค.นี้

ส่วนการที่ประชาชนให้ข้อคิดเห็นมานั้นได้เกิดความชัดเจนใน 10 ประเด็นที่เป็นแนวทางในการดำเนินการของร่างสัญญาประชาคม ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จและประเทศจะเดินไปตามโรดแมป ที่วางไว้

ส่วนเป็นกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาคัดค้านและไม่ยอมรับร่างสัญญาประชาคมนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเป็นเรื่องเก่าและเป็นจุดยืนเดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ตนยืนยันว่าได้เดินทางไปทั่วทุกทัพภาค เพื่อชี้แจงกับประชาชนโดยข้อมูลดังกล่าวเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนอย่างครบถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อนำเสนอเข้า ป.ย.ป. และนายกรัฐมนตรีรับฟังเรื่องดังกล่าวแล้ว จะมีการแถลงผ่านโทรทัศน์และใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยรวมถึง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)ในการประชาสัมพันธ์ชี้แจงถึงสัญญาประชาคมในระดับหมู่บ้านต่อไป

ส่วนกรณี นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช. ที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี ในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และกรณีการพิจารณาคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกรณีรับจำนำข้าวในขณะนี้จะมีผลต่อขบวนการปรองดองหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่าเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของศาลและอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารซึ่งเป็นคนละเรื่องกับกระบวนการสร้างความปรองดอง

สำหรับการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปีขณะนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้ารายชื่อยังอยู่ที่ผบ.เหล่าทัพ ที่จะพิจารณากันเอง ซึ่งยังไม่เข้าที่ประชุมแต่จะได้รายชื่อประมาณสิ้นเดือนก.ค.นี้ และจะนำเข้าการหารือคณะกรรมการปรับย้ายระดับชั้นนายพลต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าการปรับย้ายในครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ ซึ่งทุกปีก็ไม่เคยมีปัญหา และตนไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำใดๆ เพราะเป็นอำนาจและดุลยพินิจของผบ.เหล่าทัพ ซึ่งแต่ละคนอายุ60ปีแล้วทุกคนรู้และมีหลักในการพิจารณา ซึ่งจะเป็นผู้รู้ดีที่สุดที่จะพิจารณาคนของตัวเองเข้ามาพิจารณา