posttoday

"วัฒนา"แนะรัฐสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟ

25 มิถุนายน 2560

"วัฒนา" แนะรัฐบาล คิดถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟมากกว่าค่าตั๋วโดยสารในโครงการรถไฟไทย-จีน

"วัฒนา" แนะรัฐบาล คิดถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟมากกว่าค่าตั๋วโดยสารในโครงการรถไฟไทย-จีน

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุหัวข้อว่า "รถไฟ...ที่ต้องได้มากกว่ารถไฟ" โดยมีเนื้อหาระบุว่า

การมีเส้นคมนาคมทางบกระหว่างไทย-จีน เพิ่มขึ้นอีกทางย่อมเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญยิ่งมีเพราะประชากรถึงหนึ่งในสี่ของโลก เส้นทางเดิมที่ใช้ขนส่งสินค้ามีเพียงทางอากาศซึ่งมีราคาแพง ส่วนทางน้ำก็มีข้อจำกัดและใช้เวลานาน โครงการรถไฟไทย-จีน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ทั้งสองประเทศจะใช้ขยายการค้าร่วมกัน ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรพิจารณาคือการสร้างมูลค่าเพิ่ม (value creation) ทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟ

เงินที่ใช้ในการก่อสร้างควรเป็นของไทยโดยออกพันธบัตรกู้เงินบาทแบบรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังจะทำแต่ถูกขัดขวาง การกำหนดเส้นทางรถไฟต้องคำนึงถึงเมืองที่จะใช้เป็นศูนย์กลางความเจริญที่ต้องกระจายออกจากกรุงเทพมหานคร จุดหยุดรถควรเป็นเมืองใหม่ที่สอดรับกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจะต้องเจรจาถึงสิทธิการนำสินค้าจากไทยไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือสินค้าอย่างอื่น เช่น โอทอป เข้าไปจำหน่ายในจีน รวมทั้งเจรจาเกี่ยวกับกระบวนการด้านศุลกากร คลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ หาไม่แล้วสินค้าจะถูกกักจนเสียหาย ส่วนจีนก็สามารถใช้รถไฟดังกล่าวกระจายสินค้าของตนมายังไทยและประเทศทางตอนใต้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย รวมถึงใช้ขนส่งสินค้าอาหารที่จีนไปลงทุนไว้ที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เพื่อส่งกลับจีนซึ่งจะมีความรวดเร็วกว่าทางเรือ

รางรถไฟที่เราลงทุนเองยังสามารถให้เช่า เพื่อให้เอกชนซื้อหัวรถจักรและขบวนรถมาใช้ขนส่งหรือกระจายสินค้าแทนการใช้รถสิบล้อ ซึ่งนอกจากจะได้ค่าตอบแทนแล้วยังช่วยลดปัญหาการจราจร ลดอุบัติเหตุ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมถนนทางหลวง ขบวนรถไฟยังต่อยอดเป็นธุรกิจบริการเพื่อการท่องเที่ยวหรือพักผ่อน มีภัตตาคาร สปา หรือสิ่งบันเทิงอื่นๆ ดังนั้น หากประโยชน์ที่ได้รับมีเพียงการพัฒนาสองข้างทางรวมถึงการเกิดเมืองใหม่ตามที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก็ไม่จำเป็นต้องยอมจีนขนาดนี้ เพราะเอาใครมาก่อสร้างก็ได้ประโยชน์เช่นกัน รัฐบาลจึงต้องคิดถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟมากกว่าค่าตั๋วโดยสาร นำผลเจรจาที่ได้มาเปิดเผยให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของภาษีทราบ ไม่ได้อยากรู้แต่หากคิดไม่ออกหรือได้มาไม่คุ้มจะได้แนะนำให้เพราะมันเป็นผลประโยชน์ของชาติ