posttoday

โกตี๋โต้ถูกป้ายสีปัดวางระเบิด ลั่นถ้าคิดทำต้องบึ้มทำเนียบ

27 พฤษภาคม 2560

แกนนำแดงปทุมปัดวางระเบิด รพ.พระมงกฎเกล้า เชื่อจัดฉากเพื่อสืบทอดอำนาจ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เผยพบภาพชายต้องสงสัยแล้ว

แกนนำแดงปทุมปัดวางระเบิด รพ.พระมงกฎเกล้า เชื่อจัดฉากเพื่อสืบทอดอำนาจ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เผยพบภาพชายต้องสงสัยแล้ว

นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี เปิดเผยผ่านรายการ Thais Voice ในยูทูบ ว่า เหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นฝีมือของคนบางกลุ่มที่ทำกันเอง ถ้าพวกตนทำได้คงไม่ระเบิดโรงพยาบาล แต่จะระเบิดทำเนียบรัฐบาลหรือบ้านของคนในรัฐบาลแทน

“ถ้าพวกผมทำจะไม่ให้ชาวบ้าน เดือดร้อน นี่ที่เป็นการทำกันเองเพราะไฟลนก้น การจะอยู่อำนาจต่อไม่จำเป็นต้องวางระเบิดก็ได้ เพราะประชาชนยังไม่พร้อม แต่ที่ทำแบบนี้เอาความเจ็บป่วยหรือความสะใจเป็นข้ออ้างที่อยู่ในอำนาจต่อ ยังจัดฉากไม่เนียน วันนี้เหตุการณ์ต่างๆ โยนขี้ให้พวกผม” นายโกตี๋ กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดได้ พบชายต้องสงสัย 1 ราย ซึ่งกำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล แต่เชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุมากกว่า 1 คน ทั้งนี้ จะเกี่ยวข้องกับนายโกตี๋หรือไม่ก็เป็นประเด็นหนึ่งในการสืบสวนสอบสวน เพราะมองว่าเหตุครั้งนี้ใครมีเงินก็จ้างคนมาทำได้ทั้งนั้น และการสืบสวนข้อมูลค่อนข้างสอดคล้องกับทางกองทัพ เป็นไปได้ที่ชี้ไปทางนั้น แต่ในสำนวนการสอบสวนพยาน หลักฐานต่างๆ ยังไปไม่ถึง จึงยังชี้ไม่ได้ว่าเป็นกลุ่มใด ส่วนผลพิสูจน์จดหมาย 3 ฉบับที่ถูกส่งไปข่มขู่ 3 โรงพยาบาลนั้นจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์

“เรื่องภาพสเกตช์ก็ยังไม่ชัดเจน และผมจะไม่ขอออกหมายจับใครตามภาพสเกตช์แน่นอน ต้องรู้ตัวบุคคลตามข้อมูลทะเบียนราษฎรที่ชัดเจน” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนในคดีนี้ ระบุว่า ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลบริเวณทางเข้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ชั้นที่ 1 พบภาพชายผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ลงมือวางระเบิด เพราะได้ถือถุงพลาสติกสีทึบเข้ามาและหายไปที่บริเวณห้อง วงษ์สุวรรณ จากนั้นกล้องวงจรปิดอีกจุดหนึ่งจับภาพชายคนดังกล่าวได้อีกครั้งขณะเดินออกจากอาคารโดยไม่พบถุงพลาสติกที่ติดตัวไป

ขณะที่รายงานจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ระบุว่า ได้ตรวจสอบจดหมายแจ้งเตือนเหตุระเบิดไปยังโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งนั้น พบว่าถูกเขียนขึ้นมาจากบุคคลเดียวกัน

ที่มา https://youtu.be/cmbouv45Sr8