posttoday

"บิ๊กตู่"ใช้ม.44 ปลด'บอร์ดกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร'

19 พฤษภาคม 2560

หัวหน้าคสช. ใช้ม.44 ปลดบอร์ดกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตั้ง "บิ๊กฉัตร" นั่งประธานคณะกก.เฉพาะกิจแก้หนี้เกษตรกร

หัวหน้าคสช. ใช้ม.44 ปลดบอร์ดกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตั้ง "บิ๊กฉัตร" นั่งประธานคณะกก.เฉพาะกิจแก้หนี้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 26/2560 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รายละเอียดดังนี้

จากการที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรโดยการรับซื้อหนี้สินจากเกษตรกรนั้นในขณะนี้มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะกรณีที่เป็นหนี้สินเร่งด่วนอันเกิดจากหนี้ที่เกษตรกรถูกฟ้องล้มละลายหนี้ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างหนี้และบังคับคดีและหนี้ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี แต่ด้วยเหตุที่การดำเนินการที่ผ่านมาของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรไม่อาจบริหารจัดการได้อันเนื่องมาจากปัญหาความโปร่งใสในการบริหารจัดการกองทุนความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการรวมไปถึงปัญหาการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ไม่อาจดำเนินการได้ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ปัญหาเหล่านี้ได้สะสมมาเป็นเวลานาน ทำให้การแก้ไขปัญหา หนี้สินเกษตรกรของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรหยุดชะงักและไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างทันท่วงที เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภาคการเกษตรซึ่งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร คณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร คณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร แล้วแต่กรณี

ข้อ 2 ให้มีคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วย

(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการ (2) ผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ (3) ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นกรรมการ

(4) เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นกรรมการและเลขานุการ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งรองเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจำนวนหนึ่งคนและผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำนวนหนึ่งคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ข้อ 3 เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรเท่าที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในส่วนที่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจพิจารณาศึกษาปัญหาการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรการแก้ไขปัญหาหนี้สินและความเดือดร้อนของเกษตรกรและปัญหาการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาและการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว

ข้อ4 การใดที่ต้องดำเนินการตามสัญญาที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจพิจารณาดำเนินการต่อไปเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรเสร็จสิ้น

ข้อ 5 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจมีอำนาจสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งสำเนาหรือแสดงเอกสารสั่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูล และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมาย

ข้อ 6 ให้เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับพ้นจากตำแหน่งให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจแต่งตั้งรองเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

ข้อ 7 ในระหว่างที่ยังมิได้แต่งตั้งรองเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรตามข้อ6 วรรคสองให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่งที่เหลืออยู่ตามข้อ2 (1) (2) และ (3) และปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจตามคำสั่งนี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งรองเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรตามคำสั่งนี้

ข้อ 8 ให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้เป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันหากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวและการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรยังไม่แล้วเสร็จ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมเมื่อครบระยะเวลาตามวรรคหนึ่งให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรต่อไปในระหว่างที่ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และคณะกรรมการบริหารจัดการหนี้ของเกษตรกรให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้วเสร็จ

ข้อ 9 ในกรณีที่เห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ข้อ 10  คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 18 พฤษภาคม พุทธศักราช 2560  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/135/100.PDF 

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การสั่งให้คณะกรรมการกองทุนฯพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากกรรมการมีปัญหาในการทำงานและมีการแบ่งก๊กแบ่งเหล่ากันมาก ทำให้การแก้หนี้เกษตรกรไม่ก้าวหน้า และรวมถึงมีการทุจริตในการบริหารงานด้วย

นอกจากนั้นที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งกองทุนฯมาเกือบ20ปี ซึ่งตามกฏหมายต้องมีการฟื้นฟูเกษตรกรด้วย พบว่าสามารถฟื้นฟูได้ไม่ถึงร้อยคน เพราะกรรมการที่มาจากการเลือกของกลุ่มเกษตรมุ่งแต่จะแก้หนี้กลุ่มตัวเองเพื่อหาเสียงเป็นหลัก ทำให้ในการเสนอของบประมาณเพื่อแก้หนี้ไม่ผ่านครม.หลายครั้งโดยเงินก้อนใหญ่3พันล้านตั้งแต่สมัยพล.ต.สนั่น ขจรประสาศน์ เป็นรองนายกฯดูแลกองทุนฯ ทางกองทุนก็ยังไม่สามารถทำเรื่องออกมาใข้ได้จนต้องคืนคลังพร้อมข้อสังเกตของสำนักงานตรวจเงินแผ่น

ทั้งนี้เมื่อปี2558-2559สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ได้ให้ทีดีอาร์ไอศึกษาการทำงานของกองทุนฯ ผลการศึกษาออกมาเสนอให้ ยุบกองทุนเนื่องจากเป็นกองทุนที่ทำงานไม่ได้จริงและเสียงบประมาณถึงปีละเกือบสองพันล้านบาท