posttoday

เพื่อไทยร้องยุติเก็บภาษีทักษิณ

27 มีนาคม 2560

“เรืองไกร” หอบหลักฐานร้องอธิบดีกรมสรรพากรยุติเรียกเก็บภาษีทักษิณ

“เรืองไกร” หอบหลักฐานร้องอธิบดีกรมสรรพากรยุติเรียกเก็บภาษีทักษิณ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายเพื่อไทยหนึ่งในตัวแทนนายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะนำเอกสารหลักฐานที่พบทั้งหมดไปแจ้งเตือนต่อนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อให้พิจารณายุติการประเมินภาษี 1.6 หมื่นล้านบาท จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เวลา 10.30 น.

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2553 ศาลฎีกาพิพากษาให้ยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ศาลภาษีกลางมีคำพิพากษาตัดสินเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2553 สรุปได้ว่า เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าหุ้นชินคอร์ปที่ขายให้เทมาเสกยังคงเป็นของนายทักษิณและคู่สมรส การเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา จึงไม่ชอบให้เพิกถอนการประเมิน

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ระบุว่านายทักษิณเป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินจากการซื้อหุ้นแอมเพิลริช เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2549 ซึ่งเคยออกหนังสือประเมินไปที่ นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา เพื่อเรียกเก็บภาษีไปแล้ว ย่อมถือว่าเป็นหนังสือที่เรียกประเมินไปที่อดีตนายกฯ ทักษิณด้วยเช่นกัน อายุความในการเรียกเก็บภาษีจึงครบกำหนดในวันที่ 31 มี.ค.นี้

นายเรืองไกร กล่าวว่า แม้จะมีความพยายามที่จะเก็บภาษีจากนายทักษิณตามมา หากดูจากเอกสารราชการที่เกี่ยวข้องจะเห็นได้หลายประเด็นว่าทำไม่ได้เลย เช่น ประเภทเงินได้ตามมาตรา 40  ศาลพิพากษาเพิกถอนการประเมิน อายุความเลยกำหนด 10 ปี เป็นต้น

ด้าน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากกรมสรรพากรไม่เรียกเก็บภาษีย่อมเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ซึ่งตามขั้นตอนการต่อสู้จะอยู่ในช่วงหลังสรรพากรมีคำสั่งเรียกเก็บภาษีแล้ว หากนายทักษิณ เห็นว่าไม่ถูกต้องก็สามารถขออุทธรณ์คำสั่งและไปต่อสู้กันในประเด็นข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายต่อไป 

นายชาญชัย กล่าวว่า ข้ออ้างที่ทางนายเรืองไกรระบุว่าเรื่องอายุความเลยกำหนด 10 ปีนั้น ไม่ถูกต้องแต่เพราะตามกฎหมาย เมื่อยังไม่การเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ อายุความก็ยังไม่เริ่มต้นนับหนึ่ง อีกทั้งที่ผ่านมา นายประสงค์ยังเคยให้การในชั้นศาลภาษีอากรระบุว่าสามารถจัดเก็บภาษีได้