ฟัน"อดีตผู้ว่าททท."รวยผิดปกติ รับสินบนเทศกาลหนัง

ป.ป.ช. มีมติริบทรัพย์"จุฑามาศ"อดีตผู้ว่าการ ททท. ร่ำรวยผิดปกติคดีทุจริตจัดงานเทศกาลภาพพยนต์นานาชาติ ประสานสหรัฐอายัดทรัพย์แล้วขอนำทรัพย์คืนไทย หลังศาลนัดอ่านคำพิพากษา 29 มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. เวลา 11.00 น. นายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรม การ ป.ป.ช.  มีมติชี้มูลความผิด นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยข้อหาร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควรจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจ้างนักธุรกิจชาวอเมริกันในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

โดยคณะกรรมการป.ป.ช.ระบุว่า กรณีดังกล่าวได้มีการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จนปรากฏตามพยานหลักฐานว่านางจุฑามาศ มีทรัพย์สินเป็นเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน และการชี้แจงถึงที่มาของเงินดังกล่าวไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้ ทั้งนี้ ทรัพย์สินดังกล่าว ป.ป.ช. ได้ประสานกับทางการสหรัฐอายัดไว้แล้ว และทางการสหรัฐมีพันธกรณีที่จะต้องคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้รัฐไทยตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลไทยที่เกิดจากการทุจริต  รวมทั้งจะประสานกับทางการสหรัฐติดตามทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว อาจทำเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐ หรือกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคดีนี้เป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรก ซึ่งมีการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และจะเป็นคดีตัวอย่างของป.ป.ช.

นายนิติพันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นางจุฑามาศและบุตรสาว จากการทุจริตเรียกรับสินบนและเอื้อประโยชน์ให้นักธุรกิจชาวอเมริกัน ในการดำเนินโครงการภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ พ.ศ. 2546 – 2550 และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยขั้นตอนต่อไป  ป.ป.ช.จะส่งรายงานการไต่สวนให้อัยการสูงสุดภายใน 30 วัน เพื่อขอให้ศาลยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ขณะที่ในส่วนของคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางจุฑามาศและบุตรสาว จากการทุจริตเรียกรับสินบนและเอื้อประโยชน์ให้นักธุรกิจชาวอเมริกัน ในการดำเนินโครงการภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ พ.ศ. 2546 – 2550 และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง  ศาลอาญาได้สืบพยานโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว และนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 29 มีนาคมนี้ 

ส่วนการดำเนินคดีในสหรัฐ อเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ  ได้ดำเนินคดีกับสองสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกัน ในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ  ซึ่งจำเลยทั้งสองคนได้รับโทษถึงที่สุดแล้ว  และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับนางจุฑามาศ และบุตรสาว ในความผิดฐานฟอกเงิน และดำเนินการริบทรัพย์ทางแพ่ง มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารต่าง ๆ ในต่างประเทศของบุตรสาว รวมมูลค่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  หรือประมาณ 65 ล้านบาท  และปัจจุบันได้พักคดีดังกล่าวไว้เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญาของศาลในประเทศไทย