posttoday

กมธ.เพิ่ม2เก้าอี้ตัวแทนสื่อในสภาวิชาชีพ

27 กุมภาพันธ์ 2560

กมธ.ปรับสัดส่วนสภาวิชาชีพฯ เพ่ิม2 เก้าอี้ตัวแทนสื่อ สื่อเก่าได้ใบอนุญาตอัตโนมัติ สื่อใหม่ต้องอบรม -ประเมินผลKPI

กมธ.ปรับสัดส่วนสภาวิชาชีพฯ เพ่ิม2 เก้าอี้ตัวแทนสื่อ สื่อเก่าได้ใบอนุญาตอัตโนมัติ สื่อใหม่ต้องอบรม -ประเมินผลKPI 

พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน (สปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมพิจารณา  ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ...  เกือบเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(วิปสปท.)ในวันที่ 9 มี.ค. เพื่อสรุปว่าจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมได้เมื่อไหร่

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาหลายแห่งได้แก่ มาตรา 3 คำจำกัดความผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและผู้ประกอบการสื่อมวลชน  รองรับครอบคลุม เทคโนโลยีที่จะก้าวเข้าสู่ยุค 5 จีในปี 2020 ส่วนผู้ที่เขียนบทความที่ไม่ประจำจะไม่อยู่ในขอบข่ายนี้  ส่วนในมาตรา 36 ได้แก้ไขจากเดิมที่ให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)เป็นผู้สอบบัญชีและประเมินผลการใช้จ่ายเงินเป็นผู้ตรวจบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตแทน

นอกจากนี้ ได้ปรับสัดส่วน คณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติเดิมจาก 13 คนเป็น 15 โดยเพิ่มสัดส่วนของผู้แทนสมาชิกวิชาชีพจาก 5 เป็น 7 คน สำหรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในบทเฉพาะกาลกำหนดให้สื่อมวลชนที่ประกอบวิชาชีพก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้ให้ถือมีใบอนุญาตโดยอัตโนมัติ โดยต้องไปแจ้งที่กับสภาวิชาชีพฯภายใน 2 ปี แต่สำหรับผู้ที่จะประกอบวิชาชีพสื่อรายใหม่จะต้องเข้ารับการอบรม ทดสอบ ประเมินผลวัด KPI ซึ่งรายละเอียดหรือหลักเกณฑ์จะต้องเป็นไปตามที่สภาวิชาชีพฯกำหนด

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานฯ กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนของสื่อมวลชนหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้เจ้าของสื่อหรือต้นสังกัดจะเป็นผู้ออกใบรับรองว่าเป็นสื่อมวลชนจริง เพื่อขอขึ้นทะเบียนเอง สำหรับคนที่ทำสื่อออนไลน์ต้องดูเจตนาว่าต้องการเผยแพร่ข่าวสารสู่สาธารณะหรือไม่ และมีรายได้ประจำไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ก็ถือว่าเข้าข่ายตามกฎหมายนี้  อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดห้ามคณะทำงานสรรหาสมาชิกสภาวิชาชีพสื่อมวลชนให้มารับตำแหน่งในสภาวิชาชีพ เพราะถือว่าเป็นเรื่องมารยาท แต่เมื่อมีเสียงทักท้วงก็จะนำประเด็นนี้เข้าสู่การหารือในที่ประชุมครั้งหน้าต่อไป