posttoday

พิชัย เย้ย "สมคิด" ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์จริง

24 กุมภาพันธ์ 2560

"พิชัย" ย้อน "สมคิด" คนจนยังลำบากมากแต่กลับไม่ให้พูด เย้ย คงไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์จริงเพราะเปรียบเทียบไทยกับสิงคโปร์ที่มีรายได้ต่อหัวมากกว่าไทย 14 เท่า

"พิชัย" ย้อน "สมคิด" คนจนยังลำบากมากแต่กลับไม่ให้พูด เย้ย คงไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์จริงเพราะเปรียบเทียบไทยกับสิงคโปร์ที่มีรายได้ต่อหัวมากกว่าไทย 14 เท่า

วันที่ 24 กพ. นาย พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจออกมาให้ใครที่บอกว่ารัฐบาลนี้ทิ้งคนจนให้รูดซิบปาก แสดงให้เห็นว่านายสมคิดยังไม่เข้าใจสภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงที่คนจนยังลำบากกันอย่างมาก ความช่วยเหลือของรัฐ เช่นการแจกเงินก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของคนจนดีขึ้น หากรัฐบาลไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ คนจนจะยิ่งลำบากมากขึ้น ซึ่งหากไม่มีใครเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนจน รัฐบาลก็ทำเหมือนไม่เดือดร้อนมาโดยตลอด และความลำบากได้ลามไปถึงคนชั้นกลางและคนส่วนใหญ่ของประเทศแล้ว และตามที่นายสมคิดยอมรับเองว่าไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ยิ่งตอกย้ำว่านายสมคิด ไม่ทราบสภาวะและปัญหาที่แท้จริงเลย การที่นายสมคิดยังเปรียบเทียบไทยที่เป็นประเทศกำลังพัฒนากับสิงคโปร์ที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ยิ่งตอกย้ำถึงความไม่รู้ เพราะรายได้ประชาชาติต่อหัวของไทยประมาณ 5,700 เหรียญในขณะที่รายได้ประชาชาติต่อหัวของสิงคโปร์สูงถึง 81,000 เหรียญ หรือสูงกว่าไทย 14 เท่า หากไทยโต 3.2% รายได้เฉลี่ยจะเพิ่ม 182 เหรียญ ในขณะที่สิงคโปร์โต 2.9% รายได้เฉลี่ยเพิ่มถึง 2,349 เหรียญ จึงไม่มีทางที่รายได้เฉลี่ยของไทยจะตามสิงคโปร์ได้ทันเลย และเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย และศักยภาพของประเทศไทยควรต้องโตกว่านี้มาก ดังนั้นจึงอยากให้นายสมคิดศึกษาให้ดีก่อนพูด โดยที่นายสมคิดเป็นนักวางแผนกลยุทธการตลาดจึงพยายามทำการตลาดบอกว่าเศรษฐกิจดีอย่างเดียวโดยไม่ดูสภาวะที่แท้จริงเหมือนพยายามสะกดจิตคนจน แต่คงสะกดจิตไม่ได้เพราะเงินในกระเป๋าไม่มี ดังนั้นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ รัฐบาลควรจะต้องหานักเศรษฐศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงมาแก้ปัญหาประเทศ มากกว่าจะใช้นักกลยุทธการตลาดที่เพียงแต่ท่องว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นไปวันๆเท่านั้น ในขณะที่คนบ่นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจกันทั่วไปหมด และอยากขอบอกนายสมคิดและรัฐบาลว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องนโยบาย พรรคเพื่อไทยได้เตรียมคิดนโยบายเศรษฐกิจไว้แล้วซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะไม่ลำบากเหมือนปัจจุบันแน่ เพียงแต่รัฐบาลควรเร่งและอย่าถ่วงเวลาการเลือกตั้ง ก่อนที่คนจนจะอดตายกันหมด