posttoday

บิ๊กตู่สั่งบังคับใช้กฎหมายกับธรรมกายให้สะเด็ดน้ำโดยเร็ว

20 กุมภาพันธ์ 2560

โฆษกรัฐเผย นายกฯย้ำ ใช้มาตรการทางกฎหมายกับธรรมกายให้สะเด็ดน้ำโดยเร็ว พร้อมหลีกเลี่ยงการปะทะ ลั่นต้องไม่มีลัทธิตัวอย่างอยู่เหนือกฎหมาย

โฆษกรัฐเผย นายกฯย้ำ ใช้มาตรการทางกฎหมายกับธรรมกายให้สะเด็ดน้ำโดยเร็ว พร้อมหลีกเลี่ยงการปะทะ ลั่นต้องไม่มีลัทธิตัวอย่างอยู่เหนือกฎหมาย

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ติดตามตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้ทำอย่างชัดเจน ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจ ส่วนทหารเข้าไปสนับสนุนอยู่วงนอก โดยเฉพาะการช่วยดูแลประชาชนที่ประสงค์จะออกจากวัดพระธรรมกาย และช่วยจัดการจราจรไม่ให้ติดขัด

"หลักสำคัญในเรื่องนี้คือการบังคับใช้กฎหมายต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นจุดที่เรียกว่าเป็นลัทธิตัวอย่าง ที่กฎหมายไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ ซึ่งเราจะยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ทุกพื้นที่ต้องสามารถบังคับใช้กฎหมายได้"พล.ท.สรรเสริญกล่าว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ระมัดระวังอย่างยิ่งในการปฏิบัติการ เพราะเป็นเรื่องที่อ่อนไหว นายกฯยังพูดในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์วันนี้ ว่าหลายคนบอกว่าเข้าใจแล้วว่าประเด็นวัดพระธรรมกายเกิดจากอะไร แต่อยากให้บังคับใช้กฎหมายให้เสร็จสิ้น สะเด็ดน้ำโดยเร็ว แต่พอเจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติคนเดิมก็มาบอกว่าต้องระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว อย่าให้กระทบกระทั่งกัน เพราะฉะนั้น หากจะฟังคำพูดแล้วเหมือนเข้าใจ แต่ในทางปฏิบัติมันค่อนข้างลำบาก

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ขอประชาชนอย่าเป็นห่วงเรื่องนี้ นายกฯกำชับอยู่แล้ว ทั้งตำรวจ ดีเอสไอ ให้มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติหรือบังคับใช้กฎหมาย ขณะเดียวกันต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการปะทะ ที่สำคัญประชาชนต้องเข้าใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่วัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ไปกลั่นแกล้งหรือเปล่า หรือเจ้าหน้าที่พยายามทำตามกฎหมายกันแน่ แต่กลับถูกขัดขวาง จึงต้องมีมาตรา 44 ออกมา และถึงแม้จะมีมาตรา 44 ออกมาเจ้าหน้าที่ก็ยังระมัดระวังไม่ให้มีการปะทะ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า อยากขอร้องสื่อมวลชนซึ่งถือเป็นต้นทางของข่าวสาร ช่วยทำให้สังคมเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และอย่าตกเป็นแนวร่วมมุมกลับของผู้ที่ทำผิดกฎหมายจนเข้าทางคนกลุ่มนี้ เช่น เอาไมค์โครโฟนไปสอบถามกลุ่มที่ต่อต้าน ซึ่งกลุ่มนี้เขาพยายามเล่าเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ว่าถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่โดยที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของศาสนาเลย ที่ผ่านมาไม่มีใครบอกว่าพระธัมมชโยถูกหรือผิด เพียงแต่อยากให้ท่านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเมื่อวานก็มีการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนเป็นกรณีไป ซึ่งหลายคนก็เข้าใจแล้ว

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะบานปลายหรือไม่ เพราะมีข่าวว่าวัดพระธรรมกายเรียกคนเข้ามาเพิ่ม พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า แล้วสื่อคิดว่าสังคมเข้าใจหรือไม่ว่าที่เขาเชิญชวนประชาชนหรือพระเข้ามาที่วัดเพื่ออะไร เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาหรือไม่ เห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่เกี่ยว ดังนั้นใครจะมาสวดมนต์หรือทำอะไรก็แล้วแต่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ของเขา อยากให้ประชาชนได้พิจารณาดูว่าควรหรือไม่ควรที่จะเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เราไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าด้วยการใช้กำลัง เพราะแค่มีคนได้รับบาดเจ็บหัวแตกก็ดูเป็นภาพที่ไม่ดีแล้ว เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะระมัดระวังอย่างที่สุด

เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้มีความชัดเจนหรือไม่ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดหรือละแวกใกล้เคียง โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ต้องถามเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหรือตำรวจ เพราะเขาคงจะมีข้อมูลอยู่ และคิดว่าไม่น่าจะเกินขีดความสามารถและศักยภาพของเจ้าหน้าที่