posttoday

โพลเผยคนยอมรับได้หากเลื่อนเลือกตั้งเพื่อปรองดอง

19 กุมภาพันธ์ 2560

โพลนิด้าเผยประชาชน 71.28%ยอมรับได้หากเลื่อนเลือกตั้งเพื่อปรองดอง มองคสช.ตั้งใจปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง

โพลนิด้าเผยประชาชน 71.28%ยอมรับได้หากเลื่อนเลือกตั้งเพื่อปรองดอง มองคสช.ตั้งใจปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การปรองดอง และความขัดแย้งของคนในชาติ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15 – 17 ก.พ. 2560 กรณีศึกษาจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการปรองดอง ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ “ป.ย.ป” และความขัดแย้งของคนในชาติ

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการยอมรับของประชาชน หากการเลือกตั้งต้องถูกเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก เนื่องจากรัฐบาลและ คสช. กำลังหารือกับทุกฝ่ายเกี่ยวกับการปรองดองอยู่ในขณะนี้ พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.28 ระบุว่า ยอมรับได้ ขณะที่ ร้อยละ 21.68 ระบุว่า ยอมรับไม่ได้ และร้อยละ 7.04 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปรองดองที่รัฐบาล และคสช. กำลังหารือกับทุกฝ่ายอยู่ในขณะนี้ ว่าเป็นเกมส์การเมืองของรัฐบาลและ คสช. ที่ต้องการรักษาอำนาจ ยึดติด ต่อรองอำนาจทางการเมือง หรือ ความตั้งใจที่จะปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริงโดยปราศจากเกมส์การเมือง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.72 ระบุว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลและ คสช. ที่จะปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริงโดยปราศจากเกมส์การเมือง ขณะที่ ร้อยละ 23.92 ระบุว่า เป็นเกมส์การเมืองของรัฐบาลและ คสช. ที่ต้องการรักษาอำนาจ ยึดติด ต่อรองอำนาจทางการเมือง และร้อยละ 17.36 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองว่าจะสามารถช่วยลดความขัดแย้งของคนในชาติได้หรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.32 ระบุว่า ได้ โดยประชาชนให้เหตุผลว่า เพราะความปรองดอง ช่วยทำให้คนในชาติมีความเข้าใจกันมากขึ้น เกิดความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียว มีความเห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นความตั้งใจของรัฐบาลและ คสช. ที่จะแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งได้เชิญหลาย ๆ ฝ่ายมาหารือและพูดคุยครึ่งทางแล้ว น่าจะมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น และที่ผ่านมาได้มีการวางกรอบและแนวทางการสร้างความปรองดองไว้แล้ว ทุกฝ่ายน่าจะเย็นลงและไม่ต้องการเห็นประเทศกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก และมีความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้

ขณะที่ ร้อยละ 24.72 ระบุว่า ไม่ได้ ซึ่งในจำนวนผู้ที่ระบุว่า ไม่ได้นั้น ให้เหตุผลว่า เพราะบุคคลที่เข้ามาเป็นคนกลางในการขับเคลื่อนการสร้างความปรองดอง ยังไม่มีความยุติธรรม หรือความเป็นกลางพอ รวมไปถึงการใช้อำนาจในการจัดการปัญหาความขัดแย้งยังไม่เด็ดขาด และในสังคมยังมีบางกลุ่มที่ยังมีความขัดแย้ง เห็นพ้องต่างทางความคิดเห็นและมุมมองอยู่ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับและไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ยังมีการหาผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง มีความเหลื่อมล้ำสองมาตรฐาน น่าจะแก้ไขได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใดก็ตาม จิตสำนึกของคนไทยชอบทำอะไรตามใจตนเอง และบางส่วนไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของรัฐบาลต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ และร้อยละ 10.96 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความขัดแย้งของคนในชาติอย่างที่ผ่าน ๆ มา ว่าจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ภายหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นตามโรดแมป ของ คสช. ที่วางไว้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.32 เชื่อว่า จะเกิดความขัดแย้งอีก เพราะ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ต่างคนต่างมีอำนาจ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ถึงแม้ว่าไม่ใช่รัฐบาล คสช. แต่เป็นรัฐบาลชุดอื่น มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ความเห็นไม่ตรงกัน มีการขัดผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ก็เกิดความขัดแย้งเหมือนเดิมอยู่ดี แต่อาจจะมาในรูปแบบใหม่ ขณะที่พรรคการเมืองเดิม ๆ คนเดิม ๆ ยังคงอยู่ ต้องมีทั้งฝ่ายที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด

ขณะที่ ร้อยละ 25.76 เชื่อว่า จะไม่เกิด ความขัดแย้งอีก โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลชุดนี้ได้วางแนวทางในการปฏิรูปและการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมารู้สึกว่าบ้านเมืองมีความสงบขึ้น ผู้คนมีความรักชาติ เกิดความสามัคคีมากขึ้น ไม่ทะเลาะกันเหมือนเช่นที่ผ่านมา และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นทำให้ได้ผู้นำตามระบอบประชาธิปไตย และได้รับการยอมรับมากขึ้น น่าจะช่วยลดความขัดแย้งทางการเมืองลงได้ และร้อยละ 19.92 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

โพลเผยคนยอมรับได้หากเลื่อนเลือกตั้งเพื่อปรองดอง