posttoday

สนช.อนุมัติงบเพิ่มเติม 1.9 แสนล้านบาท

27 มกราคม 2560

สนช.อนุมัติงบเพิ่มเติม 1.9 แสนล้านบาท 'คลัง' มั่นใจเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาหนี้สาธารณะชนเพดาน

สนช.อนุมัติงบเพิ่มเติม 1.9 แสนล้านบาท 'คลัง' มั่นใจเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาหนี้สาธารณะชนเพดาน
           
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 163คะแนนเห็นชอบให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท ประกาศใช้เป็นกฎหมาย สำหรับการพิจารณากฎหมายดังกล่าวของสนช.นั้นได้ดำเนินการโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ แต่เป็นการพิจารณาสามวาระรวดในคราวเดียวกัน 
           
ทั้งนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า งบประมาณส่วนนี้แบ่งออกดังนี้ 1.ค่าใช้จ่ายตามแผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ จำนวน 115,000 ล้านบาท 2.กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นจำนวนเงิน 15,000 ล้านบาท 3.กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นจำนวน 10,000 ล้านบาท 4.เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเป็นจำนวน 22,921,300 บาท เพื่อสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นสำหรับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมาย และ 5.เป็นรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังเป็นจำนวน 27,078,278,700 บาท
               
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2560คาดว่าจะขยายตัวะ3-4% ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2559 โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐ สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีและมั่นคง อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ระดับ1.5-2.5 % ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
           
จากนั้น ที่ประชุมได้เปิดให้อภิปรายโดยสมาชิกต่างอภิปรายเห็นด้วยและสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อนำไปใช้จ่ายเพื่อแก้ปัญหาให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ แต่ได้แสดงความกังวลถึงการใช้จ่ายบริหารงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ และความโปร่งใส
           
พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สมาชิกสนช. กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับงบประมาณส่วนนี้ เพราะต้องนำไปใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่การตั้งงบประมาณครั้งนี้เป็นการใช้งบขาดดุลอีกครั้ง ซึ่งทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณนั้นสูงขึ้น จึงสงสัยว่ารัฐบาลประมาณการณ์รายได้และการชดใช้เงินกู้อย่างไร อีกทั้งหนี้สาธารณะของประเทศเทศมีสัดส่วนเท่าไหร่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และระดับหนี้สาธารณะของประเทศมีความน่าเป็นห่วงหรือไม่
           
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกสนช. กล่าวว่า รัฐบาลได้ชี้แจงว่ามีเป้าหมายในการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัว 3-4% ในปี 2560 โดยอาศัยการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม มีข้อสงสัยว่า งบประมาณเพิ่มเติมก้อนนี้กับงบประมาณประจำปี 2560 มีงบประมาณที่รัฐลงทุนเป็นน้ำหนักเท่าไหรเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวเมื่อเทียบกับเอกชน
           
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ชี้แจงว่า ขณะนี้เงินกู้ของภาครัฐต่อจีดีพีอยู่ประมาณ 42% ถ้าเรากู้เงิน 1.6 แสนล้านบาทจากงบประมารรายเพิ่มเติมจำนวน 1.9 แสนล้านบาท จะทำให้สิ้นปีนี้มีหนี้สาธารณะต่อจีดีพี 44% ซึ่งถือว่าต่ำกว่ามากจากขอบเขตที่กำหนดไว้ 60% ของจีดีพี ดังนั้น ด้วยความเข้มแข็งของฐานะทางการเงินเช่นนี้ รัฐบาลจึงตัดสินใจว่าควรทำงบประมาณกลางปีและกู้เงินเพิ่ม 1.6 แสนล้านบาท
           
“มีการถามว่างบประมาณที่เติมลงไปจะทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นอีกเท่าไหร จริงๆถ้านับเงินตรงๆที่ลงไปคงทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.4-0.5%  ซึ่งไม่มากเท่าไหร แต่สิ่งที่เราหวังมันไม่ใช่แค่นั้น ไม่ใช่แค่บอกว่าจีดีพีมากขึ้นเพราะเราเติมเงินมากลงไป แต่เราหวังว่าประเทศจะสามารถแข่งขันได้ ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าประเทศร่ำรวยแต่ประชาชนยังยากจน ก็คงไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเห็น เราอยากเห็นประชาชนของเราเองมีความเป็นอยู่ที่ดีสามารถครองชีพได้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้งบประมาณครั้งนี้ลงไปในกลุ่มจังหวัดมากขึ้น” นายอภิศักดิ์ กล่าว