posttoday

คณะกรรมการปรองดองเชิญแต่ละฝ่ายคุยรอบแรกเดือนก.พ.

23 มกราคม 2560

คณะกรรมการปรองดองเตรียมเชิญฝ่ายต่างๆ หารือรอบแรกในเดือนหน้า ยันจะไม่เกี่ยวเรื่องนิรโทษกรรม

คณะกรรมการปรองดองเตรียมเชิญฝ่ายต่างๆ หารือรอบแรกในเดือนหน้า ยันจะไม่เกี่ยวเรื่องนิรโทษกรรม

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ได้รับทราบถึงแนวทางในการทำงานของคณะกรรมการปรองดองชุดพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าในเดือนหน้าจะเริ่มเชิญแต่ละฝ่าย ในรอบแรกจำนวน 6-7 ฝ่ายมาพูดคุย ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนิรโทษกรรม แต่จะรับฟังถ้าผู้เข้าร่วมมีแนวทางปัญหาใดที่เห็นร่วมตรงกันว่าควรรีบแก้ไขเร่งด่วน อาจมีการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย หรือถ้ามีเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของชาติจริงๆ คสช.อาจจะใช้อำนาจมาตรา 44 เปิดทางให้ แต่ยังไม่รวมเรื่องคดีความ คาดว่าเดือนหน้าเริ่มสตาร์ทเครื่องอย่างจริงจัง

ด้าน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวว่า ในวันที่ 25 ม.ค. จะประชุมตัวแทนแม่น้ำ 3 สาย หรือวิป 3 ฝ่าย คือ ตัวแทน สนช. สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และรัฐบาล เพื่อผลักดันการปฏิรูปที่เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน เพื่อเตรียมประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 1 ก.พ.

สำหรับรายชื่อคณะกรรมการ ป.ย.ป.ทั้งหมดที่อยู่ระหว่างหารือ ต้องดำเนินการให้ทันวันที่ 1 ก.พ.นี้ โดยวันที่ 30 ม.ค. จะมีการประชุมมินิ คาบิเนต ครั้งที่ 2 จะมีการหารือเรื่องของกระทรวงคมนาคม จะมีทั้งเรื่องรถไฟ รถไฟฟ้า ส่วนคณะกรรมการชุดปรองดองคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการพูดคุยกัน

“การที่ทุกฝ่ายเข้ามาหารือเรื่องการปรองดองหรือไม่นั้นอยู่ที่ความร่วมมือร่วมใจไม่ใช่เรื่องการบังคับกัน เพราะเมื่อเรามานั่งคุยกันเสร็จหน้าที่ของรัฐบาลคือการรับฟังว่าแต่ละฝ่ายมองเห็นอะไรบ้าง มีอะไรที่เป็นจุดร่วมและอะไรที่เป็นจุดต่างเราก็ถกกันต่อ ส่วนจุดต่างบางจุดที่จำเป็นอาจจะปลดล็อกด้วยมาตรา 44” นายสุวิทย์ กล่าว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องการปรองดองให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนในสังคมไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการทำเรื่องปรองดองซึ่งเป็นเรื่องสำคัญนี้ร่วมกัน และเพื่อให้การทำงานของ ป.ย.ป.ด้านปรองดองมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด ขอเสนอให้นำผลงานการศึกษาด้านการปรองดองจากอดีตถึงปัจจุบันของคณะกรรมการชุดต่างๆ มาเป็นพื้นฐานในการทำงาน

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. กล่าวว่า เมื่อพูดเรื่องปรองดองโฟกัสของเรื่องจะพุ่งไปที่การแบ่งขั้วสีระหว่างเหลืองกับแดงระหว่างพรรคการเมืองซึ่งก็ไม่ผิด แต่ปัญหานี้หยั่งรากลึกลงจนถึงระดับรากหญ้าที่ต้องใช้เวลาอีกยาวนานในการแก้ไข

“หวังว่าคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมากมายจะไม่เดินไปสู่กับดักทางการเมืองที่พูดวกวนแต่เรื่องประโยชน์ที่พรรคการเมืองต่างๆ จะได้รับ โดยลืมเรื่องราวของราษฎรที่ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ อยู่” นายวัลลภ กล่าว