posttoday

สุริยะใสชี้ข้อเสนอให้คู่ขัดแย้งทำเอ็มโอยูยังเร็วเกินไป

22 มกราคม 2560

สุริยะใส แนะ 3 ข้อ "ปยป." ต้องพิจารณาเพื่อเดินหน้างานปรองดอง ชี้ข้อเสนอให้คู่ขัดแย้งทำเอ็มโอยูยังเร็วเกินไป

สุริยะใส แนะ 3 ข้อ "ปยป." ต้องพิจารณาเพื่อเดินหน้างานปรองดอง ชี้ข้อเสนอให้คู่ขัดแย้งทำเอ็มโอยูยังเร็วเกินไป

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัย รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องที่ดีที่หลายฝ่ายเริ่มส่งสัญญาณสนับสนุนกระบวนการปรองดองที่ คสช.จะทำให้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ก็มีข้อห่วงใหญ่และข้อพิจารณา ที่ คสช.ต้องรับฟังอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ที่สำคัญการตั้งโจทย์ต้องไม่ผิด เพราะอาจสร้างปัญหาใหม่ตามมา รวมทั้งการออกมาตรการต่างๆก็ต้องจัดลำดับก่อนหลังให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดความหวาดระแวงและสับสนจนไปต่อไม่ได้  เช่น หนึ่งในข้อเสนอปรองดองที่จะให้คู่ขัดแย้งทางการเมืองมาทำข้อตกลงหรือ เอ็มโอยูเพื่อนำไปสู่การยุติความขัดแย้งนั้น เป็นมาตรการหนึ่งที่น่าพิจารณา  แม้ยังเป็นแค่แนวคิด แต่เร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะการทำข้อตกลงใดๆ ก็ตามต้องผ่านการออกแบบ ต้องมีความชัดเจนทุกฝ่ายยอมรับถึงจะเกิดขึ้นได้

"โจทย์หลักที่ ปยป.ต้องพิจารณาในประเด็นปรองดองนั้น มี 3 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนที่หนึ่งคือ เจ้าภาพ ซึ่งต้องได้คนที่น่าเชื่อถือได้รับการยอมรับที่สูง ประสานทุกฝ่ายได้ไม่ใช่ต้องใช้กฎหมาย ใช้คำสั่งกำกับควบคุมทั้งหมด ส่วนที่สองคือรูปแบบหรือกระบวนการต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย และต้องมีความต่อเนื่องเพราะเรื่องนี้ทำให้เสร็จภายในปีเดียวไม่ได้แน่นอน"นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ส่วนที่สามคือเนื้อหา ต้องยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรม แสวงหาข้อเท็จจริงให้มากเพราะบางคดีหรือบางข้อกล่าวหาเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองและเกินจริงเนื้อหาต้องตอบโจทย์ทั้งเฉพาะหน้าและการแก้ปัญหาระยะยาว และต้องไม่ให้สังคมรู้สึกว่าเป็นการฮั้วหรือฟอกผิดใคร โดยเฉพาะคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรงมีหลักฐาน และคดีความผิดมาตรา 112

"บทเรียนเรื่องนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งหรือสุดซอยในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่คนไทยออกมาต้านกันทั้งประเทศ เป็นพยานหลักฐานได้เป็นอย่างดีที่ ปยป.ต้องเดินที่ละก้าวแสงหาความเข้าใจและความร่วมไม้ร่วมมือให้มากที่สุด การใช้อำนาจหักดิบเพื่อปรองดองนั้นจะส่งผลเสียในระยะยาวมากกว่า"นายสุริยะใสกล่าว