posttoday

โพลล์หนุนลงนามเอ็มโอยูสร้างปรองดอง

20 มกราคม 2560

กรุงเทพโพลล์ เผย ประชาชน 75.2% หนุนสร้างปรองดอง ทำ เอ็มโอยู ร่วมกัน

กรุงเทพโพลล์ เผย ประชาชน 75.2% หนุนสร้างปรองดอง ทำ เอ็มโอยู ร่วมกัน

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ  เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ทางออกของความปรองดองในสังคมไทย” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,216 คน พบว่า  ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 75.2 เห็นด้วยว่าควรให้พรรคการเมืองและคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือทางออกโดยทำสัจจะวาจาร่วมกัน และให้ลงนามข้อตกลง (MOU) เป็นลายลักษณ์อักษรให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตาม เพื่อสร้างความปรองดองให้แก่สังคม โดยในจำนวนนี้ให้เหตุผลว่า  ประเทศจะเดินหน้าพัฒนาได้เร็วขึ้น (ร้อยละ 59.1) รองลงมาคือ จะได้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งได้เร็วยิ่งขึ้น (ร้อยละ 47.1) และจะได้มีหลักฐานชัดเจน ไม่มีใครกล้าละเมิดข้อตกลง (ร้อยละ 43.0) ขณะที่ร้อยละ 20.5 เห็นว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไงก็กลับมาขัดแย้งอยู่ดี และร้อยละ 4.3 ไม่แน่ใจ 

เมื่อถามต่อว่าเชื่อมั่นมากน้อยเพียงใดว่าการสร้างความปรองดองโดยการทำ MOU ในข้างต้นจะช่วยทำให้สังคมเลิกขัดแย้ง แบ่งฝักฝ่ายได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ส่วนใหญ่ร้อยละ 47.2 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 43.8 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ที่เหลือร้อยละ 9.0 ไม่แน่ใจ

ส่วนข้อคำถามที่ว่า ม.44 ยังจำเป็นหรือไม่กับสังคมไทย หากรัฐบาลต้องการสร้างความสามัคคีปรองดอง ส่วนใหญ่ร้อยละ 72.1 เห็นว่าจำเป็นอยู่ ขณะที่ร้อยละ 19.8 เห็นว่าไม่จำเป็นแล้ว ที่เหลือร้อยละ 8.1 ไม่แน่ใจ

เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการรีเซ็ตนักการเมืองในปัจจุบัน ให้เว้นวรรคการเมือง 1 สมัย เพื่อให้ผ่านข้อครหาที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง และให้นักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน หากยังไม่สามารถสร้างความปรองดองได้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.2 ระบุว่า “เห็นด้วย” ขณะที่ร้อยละ 21.9 ระบุว่า “ไม่เห็นด้วย” และร้อยละ 10.9 ยังไม่แน่ใจ

สุดท้ายเมื่อถามว่าควรปฏิรูปสร้างความปรองดองให้แล้วเสร็จก่อนมีการเลือกตั้งหรือเดินหน้าเลือกตั้งเลยตามโรดแมปที่วางไว้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 57.9 อยากให้ปฏิรูปให้แล้วเสร็จก่อนมีการเลือกตั้ง ส่วนร้อยละ 35.9 อยากให้มีการเลือกตั้งเลยตามโรดแมปที่วางไว้ และเดินหน้าปฏิรูปต่อไปพร้อมๆ กัน ที่เหลือร้อยละ 6.2 ยังไม่แน่ใจ