ผ่านกม.แร่ยันไม่กระทบประชาชน

สนช.ผ่านกฎหมายแร่แล้ว กำหนดพื้นที่แหล่งต้นน้ำห้ามทำเหมือง ยันมีแนวทางป้องกันผลกระทบประชาชน

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 183 เสียง เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.แร่วาระสามก่อนเตรียมประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

นายมหรรณพ  เดชวิทักษ์ สมาชิก สนช. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แร่ ชี้แจงว่าร่างดังกล่าวมีทั้งหมด 188  มาตรา และถูกวิจารณ์ในเชิงลบเพราะหลายภาคส่วนไม่เห็นด้วย และเป็นร่างที่ กมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากองค์กรต่างๆ อาทิ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เครือข่ายฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและสุขภาพฯ

นายมหรรณพ กล่าวว่า กมธ.ได้พิจารณาโดยคำนึงถึงดุลยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนอย่างรอบด้าน โดยได้นำหลักการให้มีคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ตามร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ มากำหนดไว้ในร่าง พ.ร.บ.เพื่อให้มีความสมบรูณ์มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.แร่ เป็นการนำ พ.ร.บ.พิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509 และ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510  ที่ใช้บังคับมานานไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมาปรับปรุง โดยนำหลักการของกฎหมายทั้งสองฉบับมาบัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับเดียวกัน เพื่อให้การอนุญาตและการจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่เป็นไปอย่างมีระบบ

นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดพื้นที่ให้เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองแร่ต้องไม่ใช่พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ  เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตโบราณสถาน พื้นที่แหล่งต้นน้ำ หรือป่าน้ำซึมซับ และให้มีการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ในการทำแนวพื้นที่กันชนการทำเหมือง การจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน