posttoday

"วัฒนา"ชี้คสช.แจกเงินผู้มีรายได้น้อยสะท้อนสองมาตรฐาน

27 พฤศจิกายน 2559

"วัฒนา"ชี้รัฐบาลคสช.แจกเงินผู้มีรายได้น้อยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่คุ้มค่า ชี้แสดงถึงการสองมาตรฐานของรัฐบาล-หน่วยงานตรวจสอบ

"วัฒนา"ชี้รัฐบาลคสช.แจกเงินผู้มีรายได้น้อยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่คุ้มค่า ชี้แสดงถึงการสองมาตรฐานของรัฐบาล-หน่วยงานตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตสส.พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า มติคณะรัฐมนตรีที่ให้แจกเงินผู้มีรายได้น้อย 1,500-3,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นอกจากจะไม่คุ้มค่าแล้วยังเป็นการลอกนโยบายหรือนำสิ่งที่เคยกล่าวหาผู้อื่นมาทำ รวมทั้งยังระบุว่าโครงการแจกเงินยังแสดงถึงการสองมาตรฐานของรัฐบาลและหน่วยงานตรวจสอบ โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้

"คสช. โอษฐประศาสโนบาย"

มติ ครม. ที่ให้แจกเงินแก่ผู้มีรายได้น้อยคนละ 1,500-3,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่นอกจากจะไม่มีความคุ้มค่าแล้ว ยังแสดงถึงวิธีบริหารของรัฐบาลที่ใช้การลอกนโยบายหรือนำสิ่งที่เคยกล่าวหาผู้อื่นมาทำ จากนั้นค่อยประดิษฐ์วาทกรรมแก้ตัวแทนการใช้สติปัญญา เช่น ประชานิยมกลายเป็นประชารัฐ หรือการรับจำนำยุ้งฉางแก้ตัวเป็นการชะลอการขาย หรือล่าสุดการแจกเงินบอกเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเป็นสวัสดิการรัฐไม่ใช่ประชานิยม แต่ต้องยอมรับว่าคนพวกนี้มีความสามารถพิเศษที่กล้าสบตาพูดได้โดยไร้ซึ่งความกระดากอาย

โครงการแจกเงินยังแสดงถึงการสองมาตรฐานของรัฐบาล ป.ป.ช. และ สตง. ที่ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือจัดการกับอีกฝ่าย ได้แก่ (1) ดำเนินคดีกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในโครงการรับจำนำข้าว อ้างว่ารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดทำให้ขาดทุนเพราะระบายข้าวได้ต่ำกว่าราคาที่รับจำนำ แต่การแจกเงินให้ผู้มีรายได้น้อยคือการให้เปล่าโดยรัฐไม่ได้อะไรตอบแทนจึงต้องถือว่าขาดทุน 100% หรือขาดทุนมากกว่าโครงการรับจำนำที่รัฐยังมีข้าวในมือไว้รอขาย หรือ (2) ดำเนินคดีกับ ครม. ยิ่งลักษณ์ที่อนุมัติงบกลางจำนวน 1,921 ล้านบาท เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง อ้างว่าออกหลักเกณฑ์เยียวยาขึ้นมาใหม่และไม่มีกฎหมายใดมารองรับ (ตามโพสต์แนบท้าย) ทั้งที่คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่า "การใช้งบกลาง เป็นเรื่องทางนโยบายที่อยู่ในอำนาจของ ครม.ที่จะพิจารณากำหนดได้ตามความเหมาะสม" (ตามโพสต์แนบท้าย) ซึ่งการแจกเงินผู้มีรายได้น้อยจำนวน 12,750 ล้านบาท ของรัฐบาลนี้ก็ใช้งบกลาง กำหนดหลักเกณฑ์โดย ครม. และไม่มีกฎหมายใดมารองรับเช่นกัน แล้วเหตุใดรัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงถูกดำเนินคดี

ผมยืนยันอีกครั้งว่าการช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน แต่ต้องใช้งบประมาณอย่างชาญฉลาดจึงจะเกิดประสิทธิผล แบบที่ท่านผู้นำชอบอ้างว่า "นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด" รวมทั้งต้องการเห็นความปรองดองของคนในชาติซึ่งจะเกิดขึ้นได้หากรัฐบาลและองค์กรอิสระตั้งอยู่บนหลักนิติธรรม ถึงเวลาหรือยังที่จะรีเซ็ตทุกอย่างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ท่านผู้นำต้องเลิกอ้างคำว่ากระบวนการยุติธรรมได้แล้ว ในเมื่อตัวเองและพรรคพวกไม่เคยต้องรับผิดชอบเพราะออกกฎหมายล้างผิดตัวเองทุกเรื่อง หรือจะให้ประชาชนแสวงหาความยุติธรรมกันเอง