posttoday

"บิ๊กต๊อก"แฉ'คนกลุ่มเดิม'อยู่เบื้องหลังจาบจ้วงหมิ่นเบื้องสูง

21 ตุลาคม 2559

รมว.ยธ.เผยนายกฯสั่งศอตช.เป็นองค์กรหลักวางรากฐานปฎิรูปแก้ปัญหาทุจริต ขอสื่ออย่าลงชื่อประเทศผู้กระทำผิด ม.112 อาศัยอยู่ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ แฉ'คนกลุ่มเดิม' อยู่เบื้องหลัง

รมว.ยธ.เผยนายกฯสั่งศอตช.เป็นองค์กรหลักวางรากฐานปฎิรูปแก้ปัญหาทุจริต  ขอสื่ออย่าลงชื่อประเทศผู้กระทำผิด ม.112 อาศัยอยู่ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ แฉ'คนกลุ่มเดิม' อยู่เบื้องหลัง

วันที่ 21 ตค. พล.อ.ไพบูลย์  คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังประชุมศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)ว่าได้แจ้งคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่สั่งการให้ศอตช.ดูแลและตรวจสอบซ้ำข้าราชการที่ทำความผิดเพิ่มเติมในเรื่องการพนัน และการค้ามนุษย์ รวมทั้งการตั้งคณะทำงานดูแลพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจต่อประชาชน รวมถึงการใช้กลไกของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช) ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อวางรากฐานการทำงานให้เข้มแข็ง เพราะขณะนี้รัฐบาลเหลือเวลาทำงานเพียงอีก 1 ปีเท่านั้น จึงต้องทำยุทธศาสตร์ชาติโดยครม.มีมติให้ศอตช.ทำหน้าที่ประสานงานและเป็นตัวแทนรัฐบาล

"หลังจากป.ป.ช.เสนอยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว จากนี้ไปจะมีการประชุมศอตช.ให้มากขึ้นเพราะนายกฯให้ศอตช.เป็นองค์กรหลักในการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารูปแบบและวิธีการการทำงาน นอกจากนี้จะเร่งรัดการใช้มาตรา 44 ให้มีการออกรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโดยขอให้ป.ป.ช.และป.ป.ท รวมทั้งสตง.ต้องตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน"พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวถึง การแก้ไขปัญหาผู้ทำผิดคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 112 ว่า หลังจากเปิดเผยว่ามีการส่งหนังสือไปยังเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทยที่ผู้กระทำผิด 112 เข้าไปพักอาศัย  7 ประเทศ รวม 19 รายและปรากฎว่ามีสื่อนำไประบุถึงชื่อบุคคลและประเทศนั้น ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวอาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และทำให้เกิดความเสียหายได้  ดังนั้นต้องระมัดระวังให้มากเพราะมีการนำไปเผยแพร่ต่อในโซเซียลมีเดีย 

"ที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบตลอด แต่การนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อทำให้ขัดแย้งกับสถานการณ์ในขณะนี้  ซึ่งทัศนคติไม่สามารถแก้ได้ด้วยกฎหมายแต่ต้องแก้ไขด้วยการสร้างความรับรู้และการเข้าใจ อย่างไรก็ตามข้อมูลพบว่า กลุ่มคนที่เคลื่อนไหวยังเป็นกลุ่มเดิม และกลุ่มสนับสนุนก็ยังเป็นกลุ่มเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง จึงขอ
ให้ประชาชนช่วยกันทำให้กลุ่มคนเหล่านี้หมดไป อย่าให้มีอำนาจหรือมีอิทธิพลเพราะจะเห็นว่าแม้สถานการณ์เช่นนี้ แต่กลุ่มเหล่านี้ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม แต่ใช้จังหวะฉวยโอกาสสร้างความเจ็บปวดให้คนไทย และเชื่อว่าทุกคนรู้ว่าเป็นใคร"รมว.ยธ กล่าว