posttoday

"บิ๊กตู่"เผยเรื่องดีหุ่นยนต์ไทยได้รับการพัฒนาเชิงพาณิชย์

19 สิงหาคม 2559

นายกฯยินดีหุ่นยนต์ไทยชื่อ"ดินสอ"ได้รับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ไปเสิร์ฟอาหารที่ีสวีเดน ดูแลผู้สูงอายุที่ญี่ปุ่น ปลุกภาครัฐหนุนนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ

นายกฯยินดีหุ่นยนต์ไทยชื่อ"ดินสอ"ได้รับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ไปเสิร์ฟอาหารที่ีสวีเดน ดูแลผู้สูงอายุที่ญี่ปุ่น ปลุกภาครัฐหนุนนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติว่า มีตัวอย่างที่ ทั้งน่ายินดีและน่าเสียดายในเวลาเดียวกันได้แก่ หุ่นยนต์ ชื่อ "ดินสอ" ที่"น่ายินดี"คือเป็นการพัฒนาหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์รายแรก และรายเดียว ของประเทศไทย ที่เป็นบริษัทของคนไทย 100% นะครับในการส่งออกไปต่างประเทศ ไปเสิร์ฟอาหาร ที่ประเทศสวีเดน ไปดูแลผู้สูงอายุ ในญี่ปุ่น มีเป้าหมายผลิตและขาย 1 แสนตัว ภายใน 2 ปี แต่"น่าเสียดาย"คือ เป็นการรวมกลุ่มกันเอง มาหลายปีแล้วของอดีตนักศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์แขนงต่างๆ ที่เป็น "แชมป์โลก"ในการประกวดหุ่นยนต์ เคยพูดหลายครั้งแล้วเอามาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด การประกวดต่างๆ เหล่านี้ ด้วยความริเริ่มของ นายเฉลิมพล ปุณโณทก แต่ไม่มีภาครัฐเข้าไปสนับสนุน ภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการก็ไม่กล้าเข้าไปลงทุน วันนี้ รัฐบาลนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพูดคุยให้ความสำคัญ กับงานวิจัย กับนักวิจัย สิ่ง "น่าเสียดาย" ลักษณะนี้ จะต้องไม่เกิดอีกต่อไป

ล่าสุด องค์การทรัพย์สินทางปัญญา แห่งโลก (ไวโป) มีรายงานผลการจัดอันดับประเทศ ที่มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม โดยประเทศไทย ได้อันดับที่ 52 จาก 128 ประเทศทั่วโลกในช่วงนี้ดีขึ้นมา3อันดับ

ดังนั้นการประชุมเชิงบูรณาการนี้ ถือว่าเป็น "ครั้งแรก" ในรอบ 10 กว่าปี บรรดานักวิชาการก็ได้กล่าวในที่ประชุมมาว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปี ที่ได้มีการหารือกับรัฐบาลนะครับ เพราะงั้นรัฐบาลก็จะให้ความสำคัญกับภาควิชาการเข้ามาร่วมกันทำงานช่วยกันพัฒนาประเทศ ในกรอบของ"ประชารัฐ"เพื่อขับเคลื่อน"ประเทศไทย 4.0"ด้วยนวัตกรรม

ผลที่ตามมาก็คือความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาในรูปแบบประชารัฐ และเครือข่ายนักวิจัยและแรงงานฝีมือ ในมหาวิทยาลัย ราชภัฏ ราชมงคล อาชีวะ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้วยการนำนวัตกรรมด้านต่างๆ ไปสู่การผลิตและต่อยอด เพื่อใช้เองในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศต่อไป มีหลายอย่างที่เกี่ยวพันเชื่อมโยงกันทั้งหมด การกำหนดมาตรฐาน การผ่าน อย. สมอ. ต่างๆ ต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วเพื่อจะผลิตได้ จำหน่ายได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตรงกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล ทั้ง 5 กลุ่มเดิมที่มีศักยภาพ ที่จะต้องพัฒนาไปสู่การมีเทคโนโลยีสูงขึ้น และ 5 กลุ่มใหม่ที่ต้องการส่งเสริม สอดคล้องกับ Thailand 4.0 

ทั้งนี้ รัฐบาลจะเข้ามาดูแลด้านนโยบาย กฎหมาย งบประมาณ กองทุน แรงจูงใจด้านภาษี ผลตอบแทนนักวิจัย และมาตรการส่งเสริมต่างๆ อีกด้วย