posttoday

"บิ๊กตู่"อวยพรวันเกิด 71 ปี"ประวิตร"

11 สิงหาคม 2559

"นายกฯ" พร้อมผบ.หล่าทัพ ข้าราชการ เข้าอวยพรวันเกิด "พล.อ.ประวิตร" ครบ 71 ปี สุดคึกคัก

"นายกฯ" พร้อมผบ.หล่าทัพ ข้าราชการ เข้าอวยพรวันเกิด "พล.อ.ประวิตร" ครบ 71 ปี สุดคึกคัก

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่11 ส.ค. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1.รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดให้คณะรัฐมนตรี ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือนระดับสูง และเหล่าคนสนิท พร้อมทั้งอดีตข้าราชการ เข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายเกิดครบรอบ 71 ปี  โดยมีบุคคลในรัฐบาลเดินทางเข้าร่วมงาน คือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ส่วนข้าราชการในเหล่าทัพ ประกอบไปด้วย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สมหมาย เกาฎีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณะ อารีนิช ผู้บัญชาการทหารเรือ และพล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คู่ชิงเคนดิเดต ผบ.ทบ.คือ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสธ.ทบ. และ พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาทร ผู้ช่วยผบ.ทบ.

โดยพล.อ.อุดมเดช เป็นตัวแทนคณะกล่าวนำอวยพร ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพล.อ.ประวิตร มีความรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ อีกทั้งมีความมุ่งมั่น และมีอุดมการณ์ เพราะที่ผ่านมาก็ได้ปฎิบัติงานด้วยความวิริยะซื่อสัตย์ และมีความสุจริตเป็นที่ตั้ง พร้อมที่จะนำพาประเทศชาติให้มีความเจริญ รวมทั้งก้าวผ่านความขัดแย้ง และเดินหน้าการปฏิรูปประเทศเพื่อสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติ

"ทั้งนี้พวกเรามีความภาคภูมิใจในอุดมการณ์และพร้อมปฎิบัติตามเพื่อความเจริญของกองทัพและประเทศชาติต่อไป" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

จากนั้นพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เพื่อนๆ รมช.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)และผู้เเทนหน่วยทุกท่าน ที่มาร่วมกันวันนี้ โดยเฉพาะน้องๆทุกคนก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้ำใจไมตรีของพวกท่านทุกคนที่มีมาให้ตนมาตลอดระยะเวลาครบ71 ย่างใกล้72 ซึ่งถือว่า6 รอบแล้ว ก็ได้รับความกรุณาปราณีจากเพื่อนๆน้องๆในกระทรวงกลาโหม สตช.ที่ดูแลตนมาโดยตลอด ซึ่งปีนี้เป็นที่ 50 ที่ตนได้ทำงานมา ที่ได้รับราชการ ทำงานให้กับประเทศและส่วนรวมให้ ตนไม่เคยลืมพวกเราน้องๆเพื่อนๆที่เคยร่วมงานกันมา สมองอันเล็กๆของตนยังสามารถจดจำได้ไม่เคยลืมบุญคุณที่ทุกคนดีต่อตน

ปัจจุบันนี้บ้านเมืองของเราอยู่ในขั้นวิกฤตและกำลังก้าวสู่การปฏิรูปประเทศและทำให้ประชาชนเข้าใจเกิดความปรองดอง ซึ่งนายกรัฐมนตรี เสียสละทุกอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 57 ได้เข้ามาทำให้ประเทศสงบและต่างประเทศเกิดความเข้าใจในภาพรวม ว่าเราเป็นอย่างไร ซึ่ง นายกฯเสียสละ และได้รับการตอบแทนจากประชาชนเป็นอย่างดี เเม้จะมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจ แต่ในภาพรวมของคนทั้งประเทศเข้าใจท่าน ว่าท่านทำให้ประเทศเกิดความสงบ รวมทั้งได้วางพื้นฐานโครงสร้างต่างๆเพื่อให้ประเทศเกิดความมั่นคงในอนาคตต่อไป ซึ่งสิ่งที่นายกฯทุ่มเทนั้นทำให้ตนยอมเข้ามาทำงานกับนายกฯ ซึ่งตนก็เคยบอกหลายครั้งเเล้วว่าไม่ชอบเล่นการเมือง แต่ก็ต้องเข้ามาทำงานการเมือง 2 ครั้งเเล้ว ครั้งก็ 3 ปี ส่วนครั้งนี้ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 โดยเฉพาะสื่อมวลชนต่อไปนี้ไม่ต้องมาถามว่าตนจะเล่นการเมืองอีกหรือไม่

"ขอให้ผู้สื่อข่าวเข้าใจด้วยไม่ต้องมาเเช่งผมว่าผมป่วย ผมสู้ตาย มาแช่งกันอยู่อย่างนี้ เมื่อวานก็แช่งผม ให้ผมเข้าโรงพยาบาล จะไปเข้าได้อย่างไร ในชีวิตผมไม่เคยแอดมิด จำเอาไว้ และไม่เคยเป็นลม มาเขียนว่าผมเป็นลม ก็มีแต่สื่อทั้งนั้นที่คิดไปเอง คนในกองทัพไม่มีตั้งกันไปเถอะ คนนั้น คนนี้เป็นผบ. ไม่ถูกสักคนเดียว ซึ่งนายกฯก็บอกแล้ว พูดคนไหนคนนั้นไม่ได้เป็น "รองนายกฯ กล่าว

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ตนอยากฝากไว้ให้พวกเราทุกคนถ้ายังเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำเพื่อบ้านเมือง กองทัพ และประชาชน ตนขอยืนยันว่าประเทศจะเดินไปข้างหน้าอย่างสวยงาม เพราะนายกได้วางพื้นฐานเอาไว้มากมาย ขอฝากทุกคนให้ช่วยกันทำช่วยกันคิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่น้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้เป็นโน้นไม่ได้เป็นนี้ มันมีหลายอย่างประกอบกัน ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่เก่งหรือไม่ดี แต่มันอยู่ที่จังหวะชีวิต ดวงชะตา ซึ่งต้องถามผบ.ตร. ดวงดีหรือไม่ ก็เพราะดวงดี เลยได้เป็นผบ.ตร.เร็ว เพราะฉะนั้นอย่าไปคิด ขอให้เอาภาพรวมของประเทศและกองทัพ ให้อยู่อย่างมั่นคง กลมเกลียวและสามัคคีกัน เล็กๆน้อยๆก็ต้องมีบ้างทำให้เข้าใจกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เราต้องอยู่กันๆ เพราะเราอยู่กันมาหลายสิบปีแล้ว เราเข้มเเข็งมานานแล้ว ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ยุทโธปกรณ์ มันอยู่ที่ความกลมเกลียวและกำลังใจที่เราให้แก่กัน กองทัพจะเข้มเเข็งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน แล้วเราจะไปรอด อยู่ได้

"ผมหวังอย่างยิ่งว่า ในปีนี้ผมอายุ 71 ก็ขึ้น 6 รอบแล้ว ไม่รู้จะอยู่ดูกองทัพได้นานแค่ไหน อย่างที่ผู้สื่อข่าวเเช่งผม ผมนะยิ่งแช่งยิ่งอยู่ เมื่อวานมีคนอ่านหนังสือพิมพ์แล้วโทรมาบอกผม จะมาแช่งให้ผมป่วย คงไม่ป่วยหรอก ยังแข็งเเรงอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าไปอะไร ข่าวที่ออกมาคนนั้นจะเป็นแทนคนนี้ คนนี้จะเป็นแทนคนนั้น ออกได้ทั้งวัน ผมไม่เข้าใจ ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ ผบ.เหล่าทัพ สตช. กรมราชองครักษ์ ทุกคนที่มาอวยพรผม ยิ่งทำให้ผมมีกำลังใจดีขึ้น และเเข็งแรงขึ้น ไม่เป็นไปตามที่ผู้สื่อข่าวแช่งผม ขอขอบคุณอีกครั้งและขอให้ทุกคนโชคดีแข็งแรงเท่าผม เยี่ยมเลยอยู่ได้ตลอด "พล.อ.ประวิตร กล่าว

หลังจากนั้น เวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอวยพร พร้อมทั้งกล่าวตอบคำถามสั้นๆว่า วันนี้นำดอกไม้มาอวยพรวันเกิดท่าน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า วันเกิดปีนี้ตนอยากให้ประเทศชาติเดินหน้า ให้ประชาชนปรองดองและรักสามัคคีกัน และกองทัพต้องเป็นปึกแผ่น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้อวยพรให้ตนมีสุขภาพแข็งแรง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและขอทำงานให้เรียบร้อย พร้อมทั้งยอมในกองทัพมีตำแหน่งน้อย ขอให้น้องๆรักกัน