posttoday

นายกฯแจงรัฐใช้ม.44ลงโทษคดีทุจริตไม่ได้ แต่ช่วยให้ทำคดีเร็วขึ้น

31 พฤษภาคม 2559

พล.อ.ประยุทธ์แจงรัฐบาลใช้มาตรา44ไปลงโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ แต่ช่วยนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็วขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์แจงรัฐบาลใช้มาตรา44ไปลงโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ แต่ช่วยนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็วขึ้น

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ คสช.ปรับแผนโดยไม่เรียกนักการเมืองเข้าปรับทัศนคติว่า ต้องดูว่าที่ผ่านมานั้นเรียกไปเพื่ออะไร ซึ่งเป็นการเรียกไปเพื่อทำความเข้าใจพูดคุย หาเหตุผลว่าที่แสดงออกนั้นต้องการอะไร หากคุยวันเดียวไม่ได้ ก็ต้องยืดเวลาออกไป เป็น 2-3 วัน  แต่ไม่ได้มีการคุมขัง ซึ่งอาจเป็นการหาที่พักแล้วค่อยพูดคุยกันต่อเท่านั้น  ส่วนผู้ที่มีคดีความติดตัวอยู่ ก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมผู้ที่มีความผิดทางอาญา ก็จะถูกดำเนินคดี ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับการประกันตัว แล้วอย่ามาบอกว่า ขอให้ช่วยปลดปล่อยคดีทางการเมือง เพราะที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่การเมือง เป็นเรื่องผิดกฎหมายคดีอาญา

"ไม่มีกลยุทธ์ ผมต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ถ้าไม่สงบเดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่ก็ได้ ผมบอกว่าทุกคนต้องเรียนรู้ร่วมกัน ว่าจะอยู่กันอย่างไร อยากให้สังคมรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าปล่อยแล้วเกิดอะไรขึ้น ท่านต้องรับผิดชอบร่วมกับผม ไม่ใช่ให้ผมรับคนเดียว เมื่อผมเข้มงวดก็ว่า แต่เมื่อปล่อยก็ถามว่าหากหนีจะรับผิดชอบอย่างไร เหมือนเป็นการลงที่ผมทั้งหมด ทำไมทุกคนไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการดำเนินงานของรัฐบาลและ คสช.ว่า รัฐบาลไม่สามารถที่จะใช้อำนาจมาตรา44 ไปลงโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชัน แม้จะมีอำนาจก็ตาม แต่ก็ไม่เคยใช้ลักษณะนั้น ที่ผ่านมาเป็นการใช้เพื่อปลดล็อกคลี่คลาย ให้การทำงานรวดเร็วขึ้น วันนี้อาจจะมีความเข้าใจผิด ว่ารัฐบาลทำแล้วก็จะสามารถฟ้องร้องได้ ดังนั้นต้องศึกษากฎหมายให้ดี เพราะตนไม่ได้ทำอะไรที่เกิดความเสียหาย แต่แก้ปัญหาในอดีตที่ผ่านมา

"ทุกคนต้องได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เลือกช่วยเหลือเพียงบางจังหวัด บางพื้นที่ ผมไม่เคยมองคนที่ออกมาต่อต้านว่าเป็นศัตรู และอยากให้ทำความเข้าใจข้อกฎหมาย เพราะเรื่องของกระบวนการต่างๆ รัฐบาลนี้ไม่ใช่ผู้เริ่ม แต่เป็นผู้นำทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะถูกหรือผิด ก็ต้องต่อสู้กันไป อย่ามาบอกว่าไม่ผิดเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ แต่ต้องดูข้อกฎหมายและอยากข้อร้องสื่อมวลชนว่าอย่าทำให้ใครคล้อยตาม ขยายความขัดแย้ง ทำให้ต่างชาติเข้าใจผิดๆ เช่น นำผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศมาเผยแพร่ บิดเบือนข้อมูลของประเทศไทย เพราะคนเหล่านี้จะต้องกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน ผมให้ความยุติธรรมกับทุกคน ทั้งที่สามารถชี้ถูกชี้ผิดได้ แต่ก็ไม่ทำ เพราะให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน กฎหมายเขียนว่าผิดคือผิด อยากให้เข้าใจรัฐบาลและ คสช.บ้าง"นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ดาวอังคารเคลื่อนใกล้โลก ซึ่งหมอดูเตือนไม่ให้พูดมากว่า วันนี้ยังอารมณ์ดีอยู่ เมื่อหมอดูเตือนมาก็รับฟังไว้ แต่ถือว่าตัวเองทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะโมโหอารมณ์รุนแรงบ้าง ก็ต้องให้อภัย เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ตนมีความกดดันเพราะงานที่ทำยังไม่เสร็จ และมีปัญหาอยู่มาก ต้องทำให้ได้เพราะเป็นความคาดหวังของประชาชน แม้มีบางส่วนที่ไม่คาดหวังก็ตาม ตนทำเพื่อทุกคน ทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ขณะที่ผลโพลล์ก็มีขึ้นลงบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับว่าโพลล์ไปสอบถามใคร 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกฯ สวมเสื้อรณรงค์ประชามติ โดย กกต.บอกไม่ผิดว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ใช่คนเขียนกฎหมาย กฎหมายต้องดูที่กกต. เขียนว่าอย่างไร เมื่อกกต.พูดว่าไม่ผิด กกต.ต้องรับผิดชอบ หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น กกต.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ การใส่เสื้อหรือไม่นั้น หากมีการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องก็จะมาถึง คสช. ที่จะเข้าไปดูแล เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่เมื่อกกต.ประกาศออกมาเช่นนี้ ก็ต้องรับผิดชอบด้วย

เมื่อถามว่าขณะเดียวกันแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช) ได้เปิดศูนย์ต้านโกง เพื่อตรวจสอบการรณรงค์ประชามติครั้งนี้ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็เปิดไปซิ ก็ไปจับมา จับตัวเองด้วยก็แล้วกัน ที่ผ่านมาไม่เห็นจับ ไปจับมา ผมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว ผมไม่อยากให้โกงอยู่แล้ว จะโกงอะไร โกงคะแนนเสียงหรือ”