posttoday

เตือนนักการเมืองระวังคนไทยเอือมพฤติกรรม

25 พฤษภาคม 2559

โฆษกรัฐเผยไม่อยากตอบโต้เพื่อไทยรายวัน ชี้ต้องพูดเพราะไม่อยากเห็นประเทศถูกรังแก เตือนระวังคนไทยเอือมจนอยากก้าวข้ามนักการเมือง

โฆษกรัฐเผยไม่อยากตอบโต้เพื่อไทยรายวัน ชี้ต้องพูดเพราะไม่อยากเห็นประเทศถูกรังแก   เตือนระวังคนไทยเอือมจนอยากก้าวข้ามนักการเมือง

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณี สส.พรรคเพื่อไทยยังคงออกมากล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล โดยอ้างว่าการปรับทีมเศรษฐกิจใหม่เป็นการสะท้อนความล้มเหลวในการทำงานว่า หากสส.พรรคเพื่อไทยจะใช้ตรรกะว่า การปรับคณะรัฐมนตรีสะท้อนความล้มเหลว ก็อย่าลืมว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ มีการปรับครม.ไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง รวมทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังด้วย เช่นนี้แล้วจะถือเป็นความล้มเหลวด้วยใช่หรือไม่ อีกทั้งการหยิบยกตัวเลขทางเศรษฐกิจมากล่าวอ้างอย่างรวมๆ ไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ก็เป็นการจงใจเอาดีเข้าตัว

สส.พรรคเพื่อไทยคงลืมไปอีกแล้วว่า ในปี 2554 ซึ่งพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศนั้น  ด้วยการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย และการทุจริตในโครงการหลายโครงการ ทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่ในอันดับสุดท้ายของอาเซียน โดย ลาวมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 7.8  กัมพูชา เติบโตร้อยละ 7.1 เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เติบโตเท่ากันที่ร้อยละ 6.2  เมียนมาร์ เติบโตร้อยละ 5.6  ฟิลิปปินส์เติบโตร้อยละ 5.5 มาเลยเซีย เติบโตร้อยละ 5.3 บรูไน เติบโตร้อยละ 3.7  ขณะที่ประเทศไทย เติบโต ร้อยละ 0.8 ต่ำที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

"ขอเรียนตามตรงว่า ไม่อยากชี้แจงในประเด็นนี้อีกแล้ว เพราะคิดว่าอธิบายชัดเจนแล้ว มิได้ต้องการให้เป็นการตอบโต้ทางการเมืองรายวัน  แต่จำเป็นต้องชี้แจงเพราะไม่อยากให้ใครมารังแกประเทศ และต้องการให้สังคมไทยรับทราบความจริง รวมทั้งการที่ สส. พรรคเพื่อไทยออกมาพูดทำนองท้าทายว่า เศรษฐกิจไทยไม่มีวันเติบโตตามที่ตั้งใจไว้ที่ ร้อยละ 3.7 ในปีนี้ เปรียบเหมือนคนที่คอยสวดแช่งบ้านตัวเอง หรือยืนยิ้มรอคอยที่จะเห็นบ้านตัวเองไฟไหม้ด้วยความพอใจ"พล.ต.สรรเสริญกล่าว

ทั้งนี้จะขอไม่กล่าวถึงเรื่องเดิมๆอีก เพราะรัฐบาลมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ แต่อยากขอให้นักการเมืองทั้งหลายหยุดเล่นการเมือง  แล้วหันมาร่วมมือกันสร้างบ้านแปงเมือง  อย่าให้พี่น้องประชาชนต้องลุกขึ้นมาตั้งคำถามว่า นักการเมืองมีไว้แล้วเกิดประโยชน์อะไร อย่าประพฤติตนจนคนไทยเอือมระอาแล้วพร้อมใจกันก้าวข้ามนักการเมืองไปด้วยอีกคน"

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ไม่รู้สึกอะไรกับคำเหน็บแนมที่อยากให้เปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล เพราะเป็นคนไม่ยึดติดกับลาภ ยศ หรือตำแหน่ง  เวลาทุกนาที ก็ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติและศักดิ์ศรีคนไทย ไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง  ส่วนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตแล้วจะมีคนกล่าวหาหรือเข้าใจผิดจนอาจเป็นเรื่องเป็นราว  ก็พร้อมชี้แจงอธิบาย ไม่คิดหนีไปไหนเหมือนเช่นใครบางคน

"สิ่งที่ สส.พรรคเพื่อไทยกำลังแสดงกับสังคม น่าจะคล้ายสำนวนไทยที่ว่า ขี้แพ้ชวนตี คือเมื่อชี้แจงด้วยข้อเท็จจริงไม่เป็นผล  ก็มาหาเรื่องที่ตัวบุคคลแทน ซึ่งตนไม่ถือสา เพราะมั่นใจว่าทุกอย่างทำเพื่อประเทศไทย  และมีชีวิตอยู่อย่างจงรักภักดีต่อแผ่นดินเสมอมา"พล.ต.สรรเสริญกล่าว