posttoday

ลูกสาว"วัฒนา"ร้องอียูหลังคสช.ไม่ปล่อยตัวพ่อ

19 เมษายน 2559

บุตรสาววัฒนา เมืองสุข พร้อมทนาย ยื่นหนังสือร้องอียู ตรวจสอบคสช. คุมตัวบิดา ยันพ่อไม่เคยคิดลี้ภัยต่างประเทศ

บุตรสาววัฒนา เมืองสุข พร้อมทนาย ยื่นหนังสือร้องอียู ตรวจสอบคสช. คุมตัวบิดา ยันพ่อไม่เคยคิดลี้ภัยต่างประเทศ

วันที่ 19 เม.ย. น.ส.วีรดา เมืองสุข บุตรสาวนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายนรินพงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะผู้แทนสหภาพยุโรป เพื่อร้องเรียนต่อกรณีการควบคุมตัวนายวัฒนา จากกรณีแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นของตน เกี่ยวกับการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นการควบคุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และภรรยามาร่วมให้กำลังใจ

น.ส.วีรดา กล่าวว่า คสช.ไม่ได้แจ้งว่าควบคุมตัวนายวัฒนาไว้ที่ใด ดังนั้น ในช่วงบ่ายวันนี้ (19 เม.ย.) จะเดินทางไปที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เพื่อถามความคืบหน้าการควบคุมตัวนายวัฒนา และตั้งใจจะไปสอบถามที่มทบ. 11 ทุกวัน จนกว่าจะได้รับคำตอบว่าเมื่อใดที่นายวัฒนาจะได้กลับบ้าน

“รู้สึกเป็นกังวลใจ เพราะไม่ทราบว่าบิดาอยู่ที่ไหน และสับสนเกี่ยวกับการควบคุมตัวของพ่อ พ่อได้สั่งไว้ว่าถ้าไม่ได้รับการปล่อยตัวให้มายื่นหนังสือที่อียู อยากให้คสช.ปล่อยตัวพ่อ แม้จะมีรายงานว่าพ่ออยู่สบายดี ก็ขอให้ คสช. ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าพ่อไม่ลี้ภัย เพราะพ่อเป็นนักสู้พอ” น.ส.วีรดา กล่าว และว่า นายวัฒนาไม่เคยมีความคิดจะลี้ภัยไปต่างประเทศ ซึ่งการเดินทางมายื่นหนังสือต่อองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อให้นายวัฒนาได้รับอิสรภาพ ไม่ใช่เพื่อปูทางให้ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศอย่างแน่นอน และวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) เวลา 09.00 น.จะไปร้องทุกข์ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศด้วย

นายนรินพงศ์ กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของนายวัฒนา ไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนข้อตกลงที่ลงนามไว้กับคสช. และไม่เคยยั่วยุให้ประชาชนออกมาชุมนุมสร้างสถานการณ์ การควบคุมตัวดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้การที่ประเทศไทย เป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง การร้องเรียนต่อองค์กรระหว่างประเทศ จึงไม่ใช่การนำต่างชาติเข้ามาแทรกแซงเรื่องภายในประเทศ แต่เป็นการร้องเรียนในเรื่องที่ประเทศไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ