posttoday

"บิ๊กตู่" ยอมรับทหารโมโหง่ายแต่พร้อมปรับปรุง

10 กุมภาพันธ์ 2559

นายกฯ ขอบคุณข้าราชการร่วมทำงาน ยอมรับทหารโมโหง่ายแต่พร้อมปรับปรุงตัว เผยเร่งทุกอย่างให้เดินตามโรดแมป

นายกฯ ขอบคุณข้าราชการร่วมทำงาน ยอมรับทหารโมโหง่ายแต่พร้อมปรับปรุงตัว เผยเร่งทุกอย่างให้เดินตามโรดแมป 

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. เวลา 9.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานการจัดงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2558 และ แถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2559 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมี คณะกรรมการ กอ.รมน.,หน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า ขอบคุณข้าราชการทุกคน ที่ร่วมมือการทำงานมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอให้ข้าราชการ สลายสีรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ลดอัตตา แล้วจึงนำประชาชนมาร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง และบูรณาการร่วมกับกลุ่มงานอื่นแก้ไขปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน และการทำงานจะต้องไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริต ตนขอยืนยันว่าส่วนตัวเชื่อมั่นในข้าราชการทุกคน ส่วนการจับกุมขบวนการลักลอบปลอมแปลงหนังสือเดินทางที่ทำในไทยมากกว่า 25 ปี ว่ามีการปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้นในระหว่างที่รัฐบาลนี้ ทำหน้าที่อยู่ จะต้องเคลียร์ประเทศให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแสดงออกเรื่องการใช้อารมณ์ของตนเองว่า ยอมรับว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ส่วนตัวก็ได้พยายามปรับปรุงแก้ไขตัวเองแล้ว แต่ก็ต้องขอให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย ต้องเข้าใจว่าทหารโมโหง่ายแต่ก็พร้อมปรับปรุงแก้ไข ส่วนตำรวจก็ต้องทำตนเองให้เป็นที่รักของประชาชนให้ได้ ต้องทำงานด้านมวลชน ควบคู่กับงานประจำที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย

นายกฯยังกล่าวถึงการขึ้นภาษีบุหรี่ของกระทรวงการคลังที่มีผลบังคับใช้ในวันนี้ ว่า บุหรี่ขึ้นราคาซองละ 5-10 บาท แต่ก็ยังไม่เลิกเพราะถือเป็นความสุขของคนจน เหล้าก็เช่นกัน ซึ่งหากจะเลิกต้องเลิกด้วยตนเอง กฏหมายคงทำอะไรไม่ได้ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยในการขึ้นราคาเพื่อให้คนลดการสูบบุหรี่ แต่คงไม่สามารถห้ามได้เพราะจะกระทบกับการค้ากับต่างประเทศ

“ขอประชาขนอย่าโง่ เสพอะไรที่ไม่บริสุทธิ์ ก่อนสูบดูด้วยว่ายัดอะไรสกปรกโสโครกมา ติดไปแล้วตายทุกคน พอเลิกก็เป็นหนี้ ก็เหล้าเมาหัวทิ่ม ไม่มีเงินจ่ายยังเป็นหนี้อีก”นายกฯ กล่าว

สำหรับเรื่องก่อการร้ายนั้น วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในด้านความมั่งคง อย่าคิดว่าบ้านเราปลอดภัย เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่ปลอดภัย  ดังนั้นรัฐบาลกำลังจัดเตรียมเทคโนโลยีและกล้องจับใบหน้าให้พอเพียงเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และอยากให้ระวังพวกสุดโต่งเพราะไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นคู่ขัดแย้ง และทำตัวเป็นประเทศมีทางเลือก มีอิสระแต่ต้องทำตามพันธสัญญาโลก ซึ่งเวลาตนเดินทางต่างประเทศมีคนบอกว่าในไทยมีผู้ก่อการร้ายในประเทศและอันตรายที่สุดในอาเซียน เพราะนำแต่เรื่องปัญหา 3 จังหวัดชานแดนภาคใต้มาตัดสิน แต่ความจริงแล้วประเทศไทยมี ถึง 77 จังหวัด จะไปพูดแบบนั้นไม่ได้และฝ่ายความมั่งคงต้องไปชี้แจงปล่อยไว้ได้อย่างไร ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วกับชาวต่างชาติบางส่วนว่า บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้จะให้ทำอย่างไร ซึ่งต่างชาติบอกว่าคิดไม่ออก ให้เวลา 10 ปีก็คิดไม่ออก เพราะคนไทยไม่เหมือนใคร อยากปลอดภัยแต่ไม่อยากให้บังคับใช้กฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบต้องมีการทำบัญชีรายจ่าย และที่สำคัญเริ่มแก้ไขปัญหาตนเอง และสร้างความเข้มแข็งในการลดหนี้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพราะจะเป็นเช่นเดียวกับหนี้ครูที่มีสูงถึง 2 ล้านล้านบาท และยังมีหนี้สินของเกษตรกร ถ้าหนี้นำมารวมกันขายประเทศซัก 10 รอบก็ยังใช้ไม่หมด

ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวมีความสำเร็จไปมา ขณะนี้มีแรงงานจดทะเบียน 2 ล้านคนแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวควรทำให้ถูกกฎหมายและร่วมกับกับประเทศเพื่อนบ้านในการร่วมกันตรวจสอบ แต่ในประเทศจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้ รวมถึงเรื่องค้ามนุษย์จะต้องแก้ไข เช่น การทำการประมงผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามมาโดยตลอดและตนจะไล่ติดตามของทุกหน่วยงาน เพราะที่มาผ่านมามีการส่งเพียงการแก้ไขกฎหมาย แต่ไม่ได้เสนอลงรายละเอียดในทางปฏิบัติ ต่อไปนี้ถ้ามีประชุมไม่ต้องสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยกฎหมาย เพราะกฎหมายต้องผ่านหลาขั้นตอน แต่ตนต้องการรู้ว่าการทำงานทำอย่างไร มีปัญหาหรือไม่ และการทำทุกอย่างจะต้องตอบคำถามไอยูยูได้ทั้งหมด ตลอดจนเวลาตนไปไหนหน่วยงายราชการไม่ต้องตกแต่งสถานที่อะไรต้อนรับ เพราะตนไม่ได้ให้คะแนนความสวยงามแต่ดูที่เนื้องานมากกว่า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่างชาติบอกให้ไทยกลับมาสู่ประชาธิปไตยและเลือกตั้งโดยเร็ว ซึ่งตนจะเร่งให้ตามโรดแมป แต่ต่างชาติอาจไม่เข้าใจ แต่ทุกคนต้องสร้างความเข้าใจในทุกมิติ พร้อมยืนยันว่าไม่ฝืนประชาธิปไตย ส่วนรัฐธรรมนูญมีปัญหาอย่างไร หรือจะอยู่ในบทเฉพาะกาลหรือไม่ให้ไปคิดมา ซึ่งอย่าดูว่าสากลหรือสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะต้องเป็นสากลอยู่แล้ว อีกทั้งการปรองดองต้องเริ่มด้วยตัวเอง ถ้าไม่พูดเรื่องการเมืองก็ปรองดองได้หมด เพราะการเมืองเป็นเรื่องของความเห็นต่าง ถ้าร่วมมือกันไม่ได้ 10 ชาติก็ปรองดองไม่ได้ จะร่างกฏหมายก็มีการปรองดองก็ไม่ได้

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ สปท. สนช. กรธ. ที่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่จะต้องเริ่มจากทุกวันนี้ ซึ่งระยะที่ 1ที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็รวมกันทำมาตลอด และระยะต่อไปก็ต้องกำหนดแผนเรื่องการปฏิรูป ให้สอดคล้องให้นำไปใส่ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี และในเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี อยากให้ดูเรื่องเจตนาการร่างขึ้นมาว่าเพื่ออะไร ไม่ใช่คิดว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ นอกจากนี้ยังได้ถามผู้เข้าร่วมประชุมว่าได้ฟังเพลงคนดีไม่ได้วันตนแล้วหรือไม่ พร้อมระบุว่า ไม่ใช่แปลว่าเป็นคนดีแล้วจะไม่ตาย แต่คนดีจะไม่ตายไปจากความทรงจำของคน

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการสรุปผลงานปี 2558 และอนุมัติแผนปฏิบัติงานในปี2559 โดยสรุปแล้วเราต้องทำทุกอย่างให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ให้ได้โดยเร็วในทุกกิจกรรมของกอ.รมน. และควบคู่กับการทำงานศอ.บต. ซึ่งงานด้านความมั่นคง ความปลอดภัยในทรัพย์สิน การบังคับใช้กฎหมายและการพัฒนา ไปสู่การมีสันติสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งรายละเอียดต่างๆตนได้สั่งการไว้หมดแล้ว